นำนั่งสมาธิ ณ ลานธรรม วันมาฆบูชา ภาคค่ำ โดยหลวงพ่อธัมมชโย
法胜大师引导打坐(万佛节傍晚)
เมื่อเราได้สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้ไปให้ตั้งให้แน่วแน่มุ่งตรงต่อหนทางพระนิพพานกันทุกๆคนนะลูกนะ
我们诵经礼敬三宝后,一起专心打坐,以趣向涅槃为目标。
ให้นั่งขัดสมาธิโดยเอาขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับมือซ้าย ให้นิ้วชี้ของมือข้างขวาจรดนิ้วหัวแม่มือข้างซ้าย วางไว้บนหน้าตักพอสบายๆ หลับตาของเราเบาๆ พอสบายๆ อย่าไปบีบเปลือกตา อย่ากดลูกนัยน์ตานะจ๊ะ ปรือตานิดๆพอสบายๆ แล้วก็ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกายของเรา ทั้งเนื้อทั้งตัวให้รู้สึกสบาย ปรับร่างกายของเราให้เลือดลมเดินได้สะดวก จะได้ไม่ปวดไม่เมื่อยนะจ๊ะ
可采用单盘坐姿,右腿盘放在左腿上,右手掌盘放在左手掌上,右手食指轻触左手拇指尖,轻松地放在内足踝上。然后轻轻地闭上眼睛,不要挤眼皮,也不要压眼珠,微微睁眼,全身放轻松,每个部位都感觉轻松舒服。只要调整好身体,让全身血液流通顺畅,才不会容易感觉酸累。
แล้วก็ปรับใจของเราให้ใสๆให้เกลี้ยงๆ โดยทิ้งทุกอย่างปล่อยวางทุกสิ่ง นิ่งอย่างเดียว ให้ใจไม่ไปเกาะไปเกี่ยวไปเหนี่ยวไปรั้งเรื่องอะไรเลย ไม่ว่าเรื่องคน สัตว์ สิ่งของ ธุรกิจการงาน บ้านช่อง การศึกษาเล่าเรียน เรื่องครอบครัว หรือเรื่องอะไรที่นอกเหนือจากนี้นะจ๊ะ ให้ปลดให้ปล่อยให้วาง ทำใจใสๆใจสบายๆ คล้ายๆกับเราอยู่คนเดียวในโลก ไม่เคยเจอะเจอสิ่งอะไรเลย ทิ้งทุกอย่างปล่อยวางทุกสิ่งนะจ๊ะ ใจจะได้เกลี้ยงๆ
接下来调整我们的心,令心清净空旷,即放下一切,抛开所有,让心静定下来,不让心去攀缘外在的事与物,无论是人、事、物、工作,家庭、学业、家人,或者其他无关的事情。要学会放下、舍离、摒弃,让心透明、舒服,仿佛一人独处于世,身旁无一物。只要放下一切,抛开所有,心才会空旷通畅。
แล้วก็รวมใจกลับเข้าไปสู่ภายใน ไปหยุดนิ่งๆนุ่มเบาๆสบายๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ดนะจ๊ะ ซึ่งอยู่เหนือสะดือขึ้นมาสองนิ้วมือ โดยสมมติว่าหยิบเส้นด้ายขึ้นมาสองเส้นนำมาขึงให้ตึง จากสะดือทะลุไปด้านหลังเส้นหนึ่ง จากด้านขวาทะลุไปด้านซ้ายอีกเส้นหนึ่ง ให้เส้นด้ายทั้งสองตัดกันเป็นกากบาท จุดตัดจะเล็กเท่ากับปลายเข็ม เหนือจุดตัดนี้ขึ้นมาสองนิ้วมือ โดยสมมติว่าเอานิ้วชี้กับนิ้วกลางมาวางซ้อนกันแล้วนำไปทาบตรงจุดตัดของเส้นด้ายทั้งสอง สูงขึ้นมาสองนิ้วมือนะจ๊ะ เรียกว่าศูนย์กลางฐานที่เจ็ด ให้เอาใจไปหยุดนิ่งๆ นุ่มๆอยู่ที่ตรงนี้นะจ๊ะ ให้ใจหยุดอย่างเบาๆสบายๆ
收摄心念,让心轻松、柔和、舒服的静定在身体中央第七处,即肚脐往上提升两指宽的高度处。假设拉直两条线,一条从肚脐延伸至后背,一条从左腰延伸至右腰,两条线的交点细如针孔,在交点往上再提升两指宽,即食指和中指重叠的宽度。交点往上提升两指宽的高度处就称之为身体中央第七处。应将心静定在该定点中,然后保持轻松、柔和、舒服的状态。
จะนึกถึงบริกรรมนิมิตไว้เป็นที่ยึดที่เกาะของใจไปด้วยก็ได้ จะนึกเป็นดวงใสๆ กลมรอบตัวเหมือนดวงแก้วโตขนาดไหนก็ได้นะจ๊ะ ที่เรานึกได้อย่างสบายๆ ให้ใสบริสุทธิ์ ประดุจเพชรลูกที่เจียระไนแล้ว ไม่มีตำหนิเลย ให้นึกอย่างเบาๆสบายๆง่ายๆคล้ายกับเรานึกถึงสิ่งที่เราคุ้นเคยนะจ๊ะ นึกถึงดวงใสๆอย่างสบายๆ หรือจะนึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นองค์พุทธปฏิมากร หรือพระพุทธรูป องค์ใดองค์หนึ่งที่เราเคารพกราบไหว้บูชา จะทำด้วยอะไรก็ได้เท่าที่เรานึกได้อย่างสบายๆอาราธนาท่านมานั่งเจริญสมาธิภาวนา ขัดสมาธิเจริญสมาธิเหมือนกับเราอย่างนี้แหละ อยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ดตรงนี้ก็ได้
意念一个所缘,作为心的依靠,可以轻松地意念透明圆滑、大小适中的水晶球。 或者意念各种佛陀像,任意一种我们平常礼敬的佛陀像。佛像是什么姿色都可以,只要让心舒服即可。邀请佛像来到身体中央第七处,同我们一起盘腿入定。
นึกถึงขนาดที่พอเหมาะ พอเหมาะพอดีที่ใจเราชอบ ให้ท่านนั่งเจริญสมาธิภาวนา โดยหันหน้าออกไปทางเดียวกับตัวของเรานะจ๊ะ เราหันหน้าไปทางไหนก็ให้ท่านหันหน้าไปทางนั้น เพราะฉะนั้นลักษณะที่เราะนึกถึงท่าน มองดูท่านภายใน ก็คล้ายๆกับเรามองจากพระเศียรลงไปด้านล่าง ชัดแค่ไหนก็เอาแค่นั้นไปก่อนอย่างสบายๆนะจ๊ะ นี่สำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับการนึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะว่าเคารพกราบไหว้บูชาท่านเป็นประจำทุกวัน
意念的佛像大小适中,符合自己的心意,若为盘腿入定的姿势,应和自己面朝同一个方向,即自己面朝哪里,佛像也是面朝相同的方向。因此,我们意念的佛像时,应该是在内在观想,从佛头往下俯视,清晰程度不重要,只要感觉舒服就好,这主要是针对于习惯意念佛像的人,可能是因为他们每天顶礼佛像的缘故。
ดังนั้นจะนึกเป็นดวงใสๆสบายๆก็ได้นะจ๊ะ หรือจะเป็นองค์พระพุทธรูปใสๆ เป็นพระแก้วใสๆ หรือโลหะอะไรก็ได้นะจ๊ะที่เราคุ้นเคย อย่างใดอย่างหนึ่งนะจ๊ะ ที่เรานึกแล้วรู้สึกว่าเราสบาย มีความปลื้มปีติสุขหล่อเลี้ยงใจ แล้วก็ง่ายต่อการนึกถึง ให้นึกเท่าที่เราจะนึกได้อย่างง่ายๆสบายๆ ชัดเจนแค่ไหนก็ได้ เพื่อให้ใจของเรานี่มาหยุดมานิ่ง อยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ดตรงนี้นะจ๊ะ
此外,要意念透明球,或其他透明佛像,又或者其他自己熟悉的东西都可以。只要是意念后,心感觉舒服,法喜充满即可。任意一种自己能够轻松意念到的东西,意念后感觉舒服就好,清晰的程度不重要,主要是为了有助于心入定于身体中央第七处。
พร้อมกับประคองใจของเราให้หยุดนิ่งด้วยบริกรรมภาวนาควบคู่กันไป คือนึกถึงนิมิตดังกล่าวเป็นดวงหรือองค์พระก็ตาม พร้อมกับภาวนาในใจเบาๆอย่างสบายๆว่า สัมมาอะระหังๆๆ โดยให้เสียงคำภาวนาว่าสัมมาอะระหังเนี่ย ดังออกมาจากในกลางท้องของเรา กลางดวงใสๆที่เรากำหนดนึกไว้นะจ๊ะ หรือกลางองค์พระใสๆอย่างสบายๆ อย่างนี้ไปเรื่อยๆ จะภาวนากี่ครั้งก็ได้ แล้วแต่ใจของเราปรารถนา แต่ทุกครั้งที่ภาวนาก็ให้นึกถึงภาพบริกรรมนิมิตดังกล่าวควบคู่กันไปนะจ๊ะ แต่ต้องนึกอย่างเบาๆสบายๆ จนกระทั่งใจเราไม่อยากจะภาวนาต่อไป อยากหยุดนิ่งเฉยๆกลางดวงใสๆหรือกลางองค์พระใสๆอย่างนี้ก็ได้นะจ๊ะ
同时,也可以通过默念三玛阿罗汉护持心的入定,即是无论意念透明球球或佛像,都可以同时在心里轻轻地默念三玛阿罗汉。让默念声从肚子里的透明球,或者透明佛像的中央往外扩散。可以轻松持续地默念,次数不限,随自己的情况而定,但默念的同时,也要意念所缘,整个过程要保持轻松舒服的状态,直至自己的心不想再默念,只想静定在透明球或透明佛像的中央。
สำหรับบางคนถ้านึกถึงบริกรรมนิมิตเป็นภาพกลางกายแล้วรู้สึกว่ามันไม่สบาย มันอดไปเน้นไปเค้นภาพไม่ได้ อยากจะวางใจหยุดนิ่งเฉยๆที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ดอย่างนี้อย่างเดียวก็ได้นะจ๊ะ พูดง่ายๆว่าอย่างไหนที่เราทำแล้วเราสบายใจ หาจุดสบายเจอเราก็ทำอย่างนั้นไปก่อนนะลูกนะ ชอบอย่างไหนถนัดอย่างไหนคุ้นเคยอย่างไหน เราก็ทำอย่างนั้นไปก่อน จนกว่าใจจะหยุดนิ่ง
如果有的人在身体中央意念所缘时感觉不舒服,有压迫感,无法专注于所缘,只想让心自然静定在身体中央第七处也可以。简单的说就是,哪种方式让心感觉舒服,找打舒服的点,就先采用那种方式,只要是自己喜欢的、擅长的、习惯的方式,就先按照那样去做,直至让心静定下来。
พอใจหยุดนิ่งถูกส่วนเนี่ย มันจะตกศูนย์เข้าไปสู่ภายใน เหมือนเราตกมาจากที่สูงๆจะหล่นวู๊บเข้าไป แล้วก็จะมีดวงธรรมใสๆปรากฏเกิดขึ้นแทนสิ่งที่เรานึกถึง จะเกิดขึ้นเมื่อใจสบาย ไม่เกาะไม่เกี่ยวไม่เหนี่ยวไม่รั้งเรื่องอะไรเลย แล้วใจเนี่ยหยุดนิ่งๆนุ่มๆดังกล่าวจะตกศูนย์ไปสู่อีกมิติหนึ่ง แล้วก็ดวงใสจากมิติที่มีสภาวะละเอียดก็บังเกิดขึ้นดวงที่เกิดขึ้นใหม่นี้จะแต่ต่างกับดวงที่เรากำหนดเป็นบริกรรมนิมิต เพราะว่าเป็นดวงธรรมดวงแรกที่เรียกว่าดวงปฐมมรรค
当心静定在正确的位置,就会坠落进入内在,就好像我们从高处往下坠落一样。会呈现出一颗透明的法球,代替原先意念的所缘,这时心会非常舒服,不攀缘或挂碍任何事与物。这颗轻柔静定的心再次往下坠落,然后更加细腻的透明球就会呈现,它有别于意念的所缘,因为它是第一颗法球,称为初道光球。
มีอยู่ในตัวของทุกๆคนในโลก เป็นต้นทางไปสู่อายตนะนิพพาน ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอรหันต์ทั้งหลาย ที่ท่านบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ บรรลุธรรมมรรคผลนิพพานนั้น ก็เกิดจากใจหยุดนิ่งแล้วตกศูนย์ดังกล่าว แล้วดวงปฐมมรรคก็ลอยเกิดขึ้นมา เป็นต้นทางไปสู่อายตนะนิพพาน
它存在每个人的体内,是趣向涅槃的起点。诸佛和诸阿罗汉在证得道果涅槃前,也是一样始于修心静定,然后经过往下坠落,最后初道光球生起,这也是到达涅槃的起点。
เมื่อท่านทำใจหยุดในหยุดนิ่งไปเรื่อยๆ ท่านก็จะเห็นกายในกายไปตามลำดับ เห็นเวทนาในเวทนา เห็นจิตในจิต เห็นธรรมในธรรม กายในกายก็ตั้งแต่กายมนุษย์ละเอียด กายทิพย์ พรหม อรูปพรหม กระทั่งถึงกายธรรม โคตรภู โสดา สกิทาคา อนาคา พระอรหัต ที่มีอยู่แล้วภายใน เป็นกายที่ซ้อนๆกันอยู่ กายที่ละเอียดจะซ้อนอยู๋ในกลางกายที่หยาบกว่า กายที่บริสุทธิ์กว่าจะซ้อนอยู่ในกลางกายที่บริสุทธิ์น้อยกว่า จนกระทั่งไปถึงกายสุดท้ายคือกายธรรมอรหัตผล หน้าตักยี่สิบวาสูงยี่สิบวา เกตุดอกบัวตูม ใสเกินความใสใดๆในโลก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอรหันต์ทั้งหลาย ท่านบรรลุธรรมด้วยวิธีการอย่างนี้นะจ๊ะ
当心次第深入静定,就会次第看见身中身,受中受,心中心,法中法。身中身始于细色身。然后次第为天人身、色界梵天人身、无色界梵天人身、法身、须陀洹法身、斯陀含法身、阿那含法身、阿罗汉法身。这些身存在于内在,层层重叠,细腻之身存在粗糙之身内,越往内越清净,直至最后的阿罗汉法身,膝盖宽四十米,高四十米,头顶呈莲花髻状,比世界任何东西都更加透明清净。诸佛和诸阿罗汉皆以此方法证悟佛法。
วันนี้เป็นวันมาฆบูชามหาสมาคม,
วันที่มีความสำคัญต่อตัวเราและชาวโลกเป็นอย่างยิ่ง,
เพราะถ้าไม่มีวันนี้ ก็ยากที่พระพุทธศาสนาจะแผ่ขยายกว้างไกลไปได้ทั่วโลก,
If we don’t have this day, that will be difficult to propagate Buddhism around the world
今天是万佛节平安灯法会之日,对我们自己和世界人类是非常重要的日子
ซึ่งเมื่อราว ๒,๕๐๐ กว่าปีก่อนโน้น,
since more than 2,500 years ago
ได้มีการชุมนุมกันของพระอรหันต์ ๑,๒๕๐ รูป,ซึ่งท่านมาประชุมพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมายกันทางวาจา,
there had a great assembly of 1,250 enlightened disciple (ดิไซเพิล) monks came together without any verbal appointment.
แต่ทว่ารู้กันด้วยญาณทัสสนะของพระอรหันต์ผู้หมดกิเลสแล้ว
They had known by the super natural power minds that attained high perception and freed from defilements
อีกทั้งทุกรูปยังทรงอภิญญาและก็ล้วนเป็นผู้ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ประทานการบวชแบบเอหิภิกขุอุปสัมปทาให้ด้วยพระองค์เอง,
All enlighten disciple monks were ordained by the Lord Buddha
在2500多年以前,1250位阿罗汉不约而同来集合在一起。他们全部都是有神通,断除烦恼的阿罗汉。而且全部都是佛陀亲自为他们剃度。
ในวันนั้นพระพุทธองค์ได้ทรงประทานโอวาทปาติโมกข์,ซึ่งเป็นหลักธรรมแม่บทที่สำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา,
On that day, the Lord BD gave the ‘O-va-ta-pa-ti-mo-gha’ the key sermon, the principle teaching of Buddhism’ s propagation
เพื่อที่จะยังความเจริญรุ่งเรืองให้เกิดกับ
มวลมนุษยชาติ,
Aimed to bring prosperity for all humankind
โดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์,
regardless of race, creed, nationality or religion
และทำให้ชาวโลกได้บรรลุวัตถุประสงค์ของชีวิตที่สมบูรณ์สมกับที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์,
fully achieve the aim of being born as complete human
ตามแบบอย่างของท่านผู้รู้คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลาย,
By following the teaching of the Lord Buddha and the arahunts
当天佛陀开示波罗提木叉,也就是弘扬佛法理念、原则和方法。此佛法不限制国家、种族、宗教等的人类,能让他们生命幸福快乐,能把佛法运用在生活上,圆满生命目标,如佛陀和阿罗汉们一样。
หลักโอวาทปาติโมกข์นั้นประกอบด้วยอุดมการณ์, หลักการ, และวิธีการในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา,
The ‘O-va-ta-pa-ti-mo-gha’ included of the ideal, principle and method of Buddhist propagation
เริ่มต้นด้วยอุดมการณ์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า,
Beginning with the ideal of Buddha’s saying as
“ขันตี ปะระมัง ตะโป ตีติกขา” แปลว่าความอดทนเป็นตบะธรรมอย่างยิ่ง,
“ขันตี ปะระมัง ตะโป ตีติกขา”which means ‘endurance and patience are crucial virtues.’
หมายถึงผู้ที่จะไปทำหน้าที่เป็นแสงสว่างของโลก,
To perform duty of guiding the light in this world
จะต้องมีความอดทนเป็นพื้นฐาน,
Being endurance is the fundamental
เริ่มตั้งแต่ต้องอดทนต่อความลำบากตรากตรำ,
Start from learning how to endure difficulties,
อดทนต่อทุกขเวทนา, อดทนต่อการกระทบกระทั่ง,
Suffering, conflict,
และก็อดทนต่อกิเลสความโลภโกรธ หลง,
to endure of being greed, anger and delusion
ถ้าหากอดทนอดกลั้นต่อสิ่งเหล่านี้ได้,
if we can endure for all of these
ก็จะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายไปสู่เป้าหมายคืออายตนะนิพพานได้,
We can overcome from all obstacles and approach to Nirvana
波罗提木叉里面分成:宏扬佛法的理念、原则、和方法,理念的内容就是「ขันตี ปะระมัง ตะโป ตีติกขา」。意思就是忍辱是能烧毁烦恼的圣法。要出去当别人的善知识,,必须要有忍辱的心为基础。必须忍受辛苦、痛苦、互相摩擦、和引诱的烦恼。如果能够做到这些,就能克服所有的障碍。能到达生命的目标就是涅槃。
เหตุที่ทรงสอนให้อดทนอย่างมีเป้าหมายเพื่อไปนิพพานนั้นเพราะทรงเห็นแจ้งว่า,
The reason that the Lord Buddha taught us to be patient and aim to Nirvana because,
“นิพพานัง ปะระมัง วะทันติพุทธา” ท่านผู้รู้ทั้งหลายคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสว่าพระนิพพานเป็นเยี่ยม,
นิพพานัง ปะระมัง วะทันติพุทธา” all the enlightened ones, the Lord Buddha said that nirvana is the most excellent
คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ทรงเห็นพ้องต้องกันว่า,
Every Buddha agreed that
สิ่งที่เยี่ยมที่สุดคือพระนิพพาน,
the most excellent thing of all is Nirvana.
พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง,
Nirvana is the most happiness.
ดังนั้น เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วทุกคนจะต้องทำพระนิพพานให้แจ้ง,
So that when we were born as human beings, we should practice to get enlightenment
佛陀教导要忍耐直到达到涅槃的目标。就是นิพพานัง ปะระมัง วะทันติ พุทธา」,意思就是每一尊佛陀都说涅槃是最高尚的。所以大功德的人能在这个佛区里面生为人。要训练自己修波罗蜜,为了证达涅槃。
และระหว่างที่สร้างบารมีอยู่ก็อย่าไปก่อเวรหรือเบียดเบียนใคร, ดังพระพุทธดำรัสที่ว่า,
During we have pursued perfection, we should not perform bad deeds or harm the others, as the Lord Buddha saying
“นะหิปัพพะชิโต ปะรูปะฆาตี สะมะโณโหติ ปะรัง
วิเหฐะยันโต” คือบรรพชิตผู้ฆ่าสัตว์อื่น เบียดเบียนผู้อื่น
ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะผู้สงบเลย,
“นะหิปัพพะชิโต ปะรูปะฆาตี สะมะโณโหติ ปะรังม, วิเหฐะยันโต” the one who kills and harms the others is not the peaceful one,
“เอตัง พุทธา นะสาสะนัง” นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย,
“เอตัง พุทธา นะสาสะนัง” this is the teaching of all the Buddhas.
虽然在修波罗蜜的路上,有很多障碍,一定不要去伤害谁,就如佛陀所说的,นะ หิ ปัพพะชิโต ปะรูปะฆาตี สะมะโณ โหติ ปะรัง วิเหฐะยันโต,杀别的众生或者冒犯别的人,不算是平静者。เอตัง พุทธานะสาสะนัง这就是每一尊佛陀所说的。
เมื่อทรงให้อุดมการณ์แล้ว พระพุทธองค์ก็ทรงให้หลัก
ในการปฏิบัติ, เพื่อให้ได้บรรลุวัตถุประสงค์ของชีวิตว่า,
Then, the Lord Buddha gave the principles for attaining the aim of life that
“สัพพะปาปัสสะอะกะระณัง”คือการไม่ทำบาปทั้งปวง
“สัพพะปาปัสสะอะกะระณัง” to abstain from unwholesome deeds
“กุสะลัสสูปะสัมปะทา” การบำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อม
“กุสะลัสสูปะสัมปะทา” to commit only good deeds
“สะจิตตะ ปริโยทะปะนัง” การทำจิตของตนให้ผ่องแผ้ว
“สะจิตตะ ปริโยทะปะนัง” to purify one’s mind
“เอตัง พุทธา นะสาสะนัง” นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย,
“เอตัง พุทธา นะสาสะนัง” this is the teaching of all the Buddhas.
接着佛陀就开示弘法的原则。在我们生活中,能安全地在轮回中生而为人,我们必须「สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง诸恶莫做,
“กุสะลัสสูปะสัมปะทา”众善奉行,
“สะจิตตะ ปริโยทะปะนัง”自净其意。
“เอตัง พุทธา นะสาสะนัง” 这就是每一尊佛陀所说的。
พูดง่าย ๆ ก็คือทรงสอนให้ละชั่ว ทำความดี แล้วก็ทำใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส,
Or we can say to abstain from unwholesome deeds, to perform only good deeds and to purify one’s mind
เพื่อจะได้เข้าถึงพระรัตนตรัยที่มีอยู่แล้วภายในตัวของทุกๆ คน,
In order to attain the Triple Gem which already exists within all of us,
เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์แล้วล้วนมีพระธรรมกายอยู่ในตัวทั้งสิ้น,
Because the Dhammakaya is existed within all human beings
ซึ่งพระพุทธองค์ทรงมุ่งเน้นให้ทุกคนแสวงหาตัวตนที่แท้จริงภายใน,
Thus, the Lord Buddha emphasized us to seek for the real inner bodies.
เพราะสิ่งนี้เป็นที่พึ่งที่ระลึกได้อย่างแท้จริง และเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด,
Because this is the real refuge and most worthy for all of us.
简单的说就是诸恶莫做,众善奉行,自净其意。这都是为了净化身口意,能修行证入内在的三宝。每个人的体内都有法身,佛陀重视让每个人能达到内在的真正的依靠,也是生命中最卓越的法身。
แล้วต่อจากนั้นก็ทรงให้วิธีการในการเผยแผ่ แนะนำถ่ายทอด,เพื่อจะได้นำไปประพฤติปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม,
Next, the Lord Buddha gave the principle teaching for the propagation, and suggested people performing in properly way
อีกทั้งยังเป็นต้นบุญต้นแบบที่ดีแก่ชาวโลก, โดยทรงให้วิธีการตามหลักวิชาดังต่อไปนี้คือ,
Being good example for all people by giving principle teaching as follows;
佛陀给大家开示弘扬佛法以及当别人的善知识的方法。这都是为了能让人起信成为世人的好榜样。方法就是
“อะนูปะวาโท” ไม่ให้เข้าไปว่าร้ายใคร
“อะนูปะวาโท” not to hurt or harm the others verbally
“อะนูปะวาโท”不要伤害和跟别人发生摩擦
“อะนูปะฆาโต” ไม่ให้ไปทำร้ายใครและไปขู่บังคับ
ให้ใครเขามาเชื่อเรา,
“อะนูปะฆาโต” This means that we should not force the others to respect or believe in Buddhism,
แต่ต้องให้เขาเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตามเหตุตามผล,จนเกิดความศรัทธาเชื่อมั่นด้วยตัวเอง,
but we should explain until they understand
,and believe to have faith with their own wisdom.
「อะนูปะฆาโต不要为了让人信仰佛教,而去伤害或者恐吓他人。要让他们以自己的智慧考虑,自己起正信。
“ปาฏิโมกเข จะสังวะโร” ให้สำรวมในศีลและมารยาท,
“ปาฏิโมกเข จะสังวะโร” Keeping the moral conducts and performing good manner
จะได้ไม่ไปกระทบกระทั่งกับใคร และยังก่อให้เกิดความ
น่าเคารพเลื่อมใสอีกด้วย,
we will not make the others’ troubles, on the other hand, gaining more faithfully
「ปาฏิโมกเข จะ สังวะโร」要维持戒和威仪,如此会成为大众的尊敬亲爱者。值得他们敬拜。
“มัตตัญญุตา จะภัตตัสสะมิง” ให้รู้จักประมาณในการบริโภคแต่พอดี
“มัตตัญญุตา จะภัตตัสสะมิง” to consume food moderately
「มัตตัญญุตา จะ ภัตตัสสะมิง」在饮食方面要了解,吃的刚刚好,不要吃太多。
“ปัญตัญจะ สะยะนาสะนัง” ให้อยู่ในเสนาสนะที่นอน
ที่นั่งอันสงบสงัด, ที่เอื้ออำนวยต่อการประพฤติปฏิบัติธรรม,
“ปัญตัญจะ สะยะนาสะนัง” to live in a serene place, where is appropriate for Dhamma and meditation practice
「ปัญตัญจะ สะยะนาสะนัง」 要在 对修行有帮助的地方 休息。
และประการสุดท้าย “อะธิจิตเต จะอาโยโค” ให้ประกอบความเพียรในอธิจิต,
The last one, “อะธิจิตเต จะอาโยโค” to persevere meditation practice,
คือหมั่นเจริญสมาธิภาวนา ทำใจให้หยุดให้นิ่ง ให้ใจละเอียด ใจใสบริสุทธิ์ยิ่งๆ ขึ้นไป,
which means to purify mind in earnestly
最后就是,「อะธิจิตเต จะ อาโยโค」要精进努力修行,让心清净、细腻,光明
“เอตัง พุทธา นะสาสะนัง” นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย,
“เอตัง พุทธา นะสาสะนัง” this is the teaching of all the Buddhas.
「เอตัง พุทธานะสาสะนัง」这就是每一尊佛陀所教导的。
บทโอวาทปาติโมกข์นี้มีความสำคัญมาก,
This is the most important teaching
ไม่ว่าจะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาบังเกิดขึ้นกี่พระองค์แล้วก็ตาม,
No matter how many times that Lord Buddhas arised on earth,
ก็จะทรงสั่งสอนอย่างนี้เหมือนกันหมด ตรงกันหมด,
เหมือนเป็นเนติแบบแผนเดียวกัน,
They had taught us the same principle
有关波罗提木叉,每一尊古佛,无论什么时代的佛陀都说一样的法,而且是一个榜样。
พุทธโอวาทที่กล่าวมาข้างต้นโดยสรุปนี้,
As the above teaching
เป็นสิ่งที่ตัวเราและชาวโลกจะต้องนำไปประพฤติปฏิบัติ ด้วยความเคารพเอื้อเฟื้อในพระธรรม,
Is the teaching that we must respectfully practiceเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สุขทั้งต่อตัวเราเอง ต่อครอบครัว
ต่อสังคม ประเทศชาติและโลกใบนี้,
In order to bring benefit and happiness for us, our families, society, country and our world
以上所说的是我们人类必须要运用在生活中的佛法,这会对我们个人、家庭、社会、国家、全世界有很大的帮助。
โดยเฉพาะเราเป็นชาวพุทธจะต้องยึดหลักโอวาทปาฏิโมกข์นี้อย่างเคร่งครัด และปฏิบัติให้เหมาะสม,
Especially, we are the Buddhists, be strict to follow the principle and practice in properly way
จึงจะได้ชื่อว่าเป็นชาวพุทธที่สมบูรณ์,
Thus, we will be the perfect Buddhist
ถ้าหากชาวโลกทุกๆ คนได้ศึกษาความรู้สากลนี้ และได้ปฏิบัติตามหลักโอวาทปาฏิโมกข์,
If people in this world study this knowledge of universal goodness and practice this teaching
โลกก็จะบังเกิดสันติสุขที่แท้จริง,
Our world will gain real peacefully
มวลมนุษยชาติจะปรองดองกันเหมือนเป็นประดุจครอบครัวเดียวกัน,
All humankind will be in harmony as the same family
จะมีความรักและปรารถนาดีต่อกันอย่างแท้จริง,
We will spread loving and good wish to one another
จะรู้จักการให้อภัย เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปัน,
Charity and forgiveness will be occurred
ความรักสากลที่มาพร้อมกับสันติสุขที่แท้จริงก็จะบังเกิดขึ้นในโลก,
Definitely, the universal love and real peace will be happened in our world
尤其是我们是佛教徒,必须谨慎的学习波罗提木叉 ,并拿去实行,如此才能称为真正的佛教徒。如果世上的每个人们能学习到这个知识,并能拿去实行,世界的和平就能在我们这个时代出现,人类有同样的目标,互相宽容、互相分享,对众生有真正的好处。美好的事情将会在这个地球上出现。这表示国际的爱已经实现了。
ดังนั้น วันนี้จึงเป็นวันสำคัญของโลก,
Therefore, today is important day in our world
ถ้าหากไม่มีวันมาฆบูชา ชาวโลกก็จะไม่รู้จักวิธีการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องสมบูรณ์ในการที่จะนำพาชีวิตไปสู่เป้าที่แท้จริงได้เลย,
Without Magha Puja Day, people will not know the righteous way of life and cannot attain the real aim
因此今天是世界的重要节日,如果没有万佛节平安灯这个日子。人类就不懂能过正当生活的方法,此方法会带来每个生命的快乐。
เพราะฉะนั้น วันนี้เราจึงต้องมาทบทวนโอวาทปาติโมกข์,
So, today we should reconsider the ‘O-va-ta-pa-ti-mo-gha’
และระลึกถึงหลักธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยความเคารพเลื่อมใส,
faithfully recall the Buddha’s teaching
และร่วมใจกันปฏิบัติบูชาแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลาย,
To worship the Lord Buddha and arahunts
เมื่อใจเราบริสุทธิ์ผ่องใส เราก็จะได้ร่วมกันจุดมาฆะประทีปถวายเป็นพุทธบูชา,รวมทั้งพระอรหันตสาวกทั้งหลาย,
When our minds are pure, then we will light up the Makha lanterns and pay homage to the Lord Buddha and the arhunts
今天我们来温习波罗提木叉,以诚心来学习佛法,并一起来点燃上万盏灯供养每一尊佛陀阿罗汉
ซึ่งการบูชาด้วยประทีปแสงสว่างนี้,
The consequence of paying homage by lighting the lanterns
จะทำให้เราได้รับอานิสงส์เป็นผู้ถึงพร้อมทั้งมังสจักษุ ทิพยจักษุ ปัญญาจักษุ สมันตจักษุ และธรรมจักษุ,
will bring us getting full of clear physical eyes, celestial eyes, eyes of wisdom, the Bhramma eyes and the eyes of Dhamma inside
เราจะมีดวงตาแจ่มใสสวยงาม ไม่เป็นโรคเกี่ยวกับดวงตา,
We will have beautiful eyes, no physical eyes decease
และจะมีรัศมีกายที่สว่างไสวอีกทั้งมีดวงปัญญาสว่างไสว สามารถรู้ทั่วถึงธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายอีกด้วย,
Having good complexion and brightness wisdom to attain the Dhamma of all Lord Buddhas
เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะได้จุดประทีปถวายเป็นพุทธบูชา ก็ให้ลูกทุกคนจุดใจของเราให้สว่างไสว,
So, before we light the Magha lantern, we should light up our mind brightness first
ด้วยการหยุดใจให้นิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗…
by stop and still the mind softly at the center of body, the 7 base with ease
点灯供佛的功德利益让我们有漂亮美好的眼睛、圆满的天眼、智慧眼和法眼,会让我们有身光、智慧光明。精通佛陀所教导的法。所以当每位弟子已经了解之后,现在请各位一起来让心宁静、柔和、舒舒服服地定在身体中心点。
(พระเดชพระคุณหลวงพ่อนำนั่งสมาธิต่อ)