วัดปากน้ำ สถานที่ทำวิชชา
Paknam-Bhasicharoen Temple, the location where Luang Pu practiced Vijja Dhammakaya
ทบทวนโอวาท
Words of Wisdom
น้อมรำลึกถึงวัดปากน้ำภาษีเจริญ 28 มกราคม 2564
To commemorate Paknam-Bhasicharoen Temple on 28 January 2022
วัดปากน้ำภาษีเจริญสถานที่ทำวิชา สู้รบปรบมือกับพญามาร
Paknam-Bhasicharoen Temple the place where the Great Master and his experienced disciples practiced high meditation to fight against the Mara
พระเดชพระคุณหลวงปู่พระผู้ปราบมาร เมื่อมาเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดปากน้ำภาษีเจริญ ท่านก็เป็นทั้งครูและนักเรียน เป็นครู ครูสอนสมาธิไปด้วย ในที่สุดก็มีผู้บรรลุธรรมเข้าถึงธรรมกายเพิ่มขึ้นอีกมาก เป็นนักเรียน คือท่านก็ศึกษาค้นคว้าวิชชาธรรมกายต่อไปด้วย จนกระทั่งได้พบเรื่องราว ที่เกี่ยวกับเรื่องหน้าที่ของท่านและทีมงานของท่าน ที่ท่านจะต้องลงมาเกิด มาทำหน้าที่สำคัญ ที่จะมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรม ที่จะไปขจัดต้นตอของกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไป ตรวจตรามองกันไปเรื่อย ศึกษาไปเรื่อย โดยเข้ากลางของกลางไปตามลำดับ ในที่สุด ก็รวบรวมธาตุธรรมพิเศษ ที่มาเกิดเพื่อการนี้ ที่จะศึกษาค้นคว้าวิชชาธรรมกายรวมกันได้เป็นกลุ่มเป็นก้อน
When the Great master became the abbot of Wat Paknam, he was put in the position of both a teacher and a student. As a teacher position, he had taught meditation until more people of the disciples were able to be attain Vijja Dhammakaya. As a student, he studied Vijja Dhammakaya until he found out about the duties of him and the team. It was an important mission to reach the Utmost Dhamma to destroy the cause of defilements. Once he kept checking on it, he learnt a lot about deep meditation, finally, he could gather the team to make this purpose happen.
ตั้งแต่ท่านอายุได้ 47 ปี ก็เริ่มทำสงครามภายใน ซึ่งเป็นสงครามที่แท้จริง เป็นสงครามที่ไม่ได้ใช้ศาสตราวุธยุทโธปกรณ์ ไม่มีการพลัดพราก มีแต่ความสุขและความบันเทิง ทุกขั้นตอนของการทำสงครามที่แท้จริงกับกิเลสอาสวะ และพญามารภายใน ศึกษาค้นคว้ากันเรื่อยไป โดยแบ่งเป็น 2 กะ กลางวัน 6 ชั่วโมง กลางคืน 6 ชั่วโมง ค้นคว้ากันเรื่อยไป จนกระทั่งถึงยุคที่คุณยายอาจารย์ของเราได้มีส่วนอย่างสำคัญ ในการได้เข้าสู่สมรภูมิที่แท้จริง รบกันด้วยธรรมาวุธ ด้วยธรรมกายไม่มีการสูญเสียใดๆทั้งสิ้น นอกจากบุญบันเทิงมีความสุขทุกขั้นตอนเรื่อยไป
Luang Pu had been fighting a war since the age of 47, however, this war is waged without weapons and gunpowder. the defilements and the Mara. The Great Master further deepened the knowledge of Vijja Dhammakaya by having a 24 hour meditation workshop divided into 6-hour shifts; 6 hours during the day and another 6 hours during the night. He maintained this 24 hour workshop until Khun Yay arrived become an important part of this war. They fought to eliminate the defilements with Vijja Dhammakaya joyfully in every step of the way.
กระทั่งเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เกิดการรบราฆ่าฟันกันไปทั่วโลก ท่านก็ศึกษา ค้นคว้าไปด้วย แก้ไขทุกข์มนุษย์ไปด้วย ศึกษาไปค้นคว้าไป แก้ไขไม่ให้มนุษย์ รบกันเอง เพราะว่ามนุษย์ไม่ได้รู้ว่าเกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายของชีวิต ถูกเขาจับปั่นเหมือนจิ้งหรีดให้กัดกัน โดยเอากิเลสอาสวะมาบังคับ แล้วก็บดบัง ไม่ให้รู้เป้าหมายในชีวิตของตัว ไม่ให้รู้ว่า เป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นพี่น้องกัน ไม่ให้รู้เรื่องราวว่าจะต้องมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรมด้วยกัน ให้รบกันเองไปอย่างนั้น ท่านก็พยายามแก้ไข เหตุในเหตุกันเรื่อยไป โดยทำทั้งกลางวันและกลางคืน มีทีมงานซึ่งเป็นธาตุธรรมพิเศษอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งอุบาสิกาและพระ เณร ได้ประกอบวิชาธรรมกายกัน
During World War II, a great number of lives were being lost in the midst of this war. The Great Master sought to study, research, and fix the suffering humans had pitted against each other out of ignorance. Humans were like the crickets that are forced by their defilements to bite each other. They were blind to knowing the aim of being born, to know that one could be the same family or siblings, to knowing that we must fight until we reach the Utmost Dhamma together. It let us fight each other. Luang Pu continued to work and study Vijja Dhammakaya, with him and his special team of monks, nuns, and laymen who attained the Dhammakaya to do so..
คุณยายอาจารย์ของเรา ท่านก็เป็นหนึ่งในนั้น ท่านเป็นหัวหน้าเวรขาดรู้ ซึ่งต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เกี่ยวกับเรื่องเหตุผล ที่จะตอบกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ที่ซักถามตามหลักวิชา ทั้งหยาบและละเอียด หยาบก็ถามเกี่ยวกับสงครามโลก ละเอียดก็ถามสงครามภายใน ก็แก้ไขกันไป จนกระทั่ง สงครามโลกสงบลง
Khun Yay Chandra was one of the members of Luang Pu’s team conducting Vijja Dhammakaya. She was assigned to be a shift leader who was responsible for information relayed to Luang Pu. That was included all details about the internal war which continued to be fought until the world war broke out.
คุณยายของเรา ได้รับการยกย่อง จากปากคำของพระเดชพระคุณหลวงปู่ว่า เป็นหนึ่งไม่มีสอง คือสู้อย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันทีเดียว โดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดเลย มุ่งไปสู่ที่สุดอย่างเดียวเท่านั้น พูดครั้งเดียว มีพยานที่เป็นหลักฐานหลายท่าน รับรองในคำพูดของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ซึ่งคุณยายท่านก็รับฟังด้วยใจที่เป็นปกติ การศึกษาวิชชาธรรมกาย เป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้ง จิตต้องบริสุทธิ์ และไม่มีอะไรเหนียวรั้ง ไม่เกาะเกี่ยว กับเรื่องคน สัตว์ สิ่งของ จึงจะไปรู้เรื่องราวสิ่งเหล่านี้ได้ เพราะเรื่องราวเหล่านี้ นี่มันเหลือวิสัย และยากต่อการเข้าใจ ด้วยวิธีการให้เหตุผลธรรมดา หรือจะไปหาหลักฐานอ้างอิง หรือจะใช้ความนึกคิดด้นเดาเอานั้นไม่ได้ แล้วมันก็เป็นสิ่งที่นอกเหนือจากนักการศึกษาพระพุทธศาสนา หรือปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาได้ศึกษาค้นคว้า เหมือนใบไม้ในป่าประดู่ลาย
Khun Yay fulfilled her duty to such a degree that Luang Pu praised her as “Second to None.” She fought this war with her life and regardless of any obstacles encountered, she stood steadfast by her mission. She spoke once and there were many witnesses in that time who endorsed Luang Pu’s words. She listened to everything with an unbiased mind. Studying advanced Dhammakaya knowledge is refined, it is necessary that one must have a pure mind, nothing concerning even on people, animals, or anything to attain a profound meditation state to know about this mission. It is difficult to understand by conventional reason, to find any proof to understand. It is beyond the study of Buddhist or any lesson that the Buddhist philosopher could research. It can compare to one leaf in the Prado Forest
ซึ่งสมัย 1 พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านกอบใบไม้มากำมือหนึ่ง ถามพระภิกษุว่า ใบไม้ในกำมือ กับใบไม้ในป่าประดู่ ส่วนไหนมีมากกว่ากัน ภิกษุตอบว่า ใบไม้ในป่าประดู่ มีมากกว่าใบไม้ในกำมือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็ได้กล่าวเอาไว้ว่า สัพพัญญุตญาณของเรานั้น รู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอดในสรรพสัตว์ และสรรพสิ่งทั้งปวง โดยไม่มีขอบเขตจำกัด แต่ว่า สิ่งที่เราเอามาสอนเธอนี้ เพียงนิดเดียว เพื่อเป็นทางหลุดทางพ้น จากกิเลสอาสวะ จากภพทั้งสาม จากกฎแห่งกรรม เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้งเท่านั้น
During the Buddha’s period, the Lord Buddha held a handful of leaves. He opened his hand to a disciple and asked whether the leaves in his hand or the leaves in the forest were more. The disciple monk then replied that the leaf in the forest is a lot more than the leaf in in the Buddha’s hand. The Lord Buddha said, “my knowledge can be unlimited, excelling all of forms, but what I had taught you is little, that is, to be free from defilements of this cycle of rebirth, and the law of karma, and to reach Nibanna.”
วิชชาธรรมกาย เหมือนใบไม้ในป่าใหญ่ ซึ่งปราชญ์ในทางพระพุทธศาสนานั้น ไม่ได้ให้โอกาสกับตัวเอง ในการศึกษาธรรมะปฏิบัติให้มันลึกซึ้งขึ้นไป ก็ยากต่อการที่จะได้เข้าใจ แม้แต่นักวิชาการทางพระพุทธศาสนาในระดับโลก เมื่อไม่ได้ให้โอกาสตัวเองศึกษา ก็ยากที่จะเข้าใจสิ่งนี้ได้ เพราะฉะนั้นคำว่าวิชชาธรรมกาย จึงรู้กันอยู่แต่ในขอบเขตจำกัด สำหรับธาตุธรรมพิเศษ คือในโรงงานทำวิชชาเท่านั้น นอกนั้น ก็รู้แต่เพียงว่า ธรรมกาย คือพระรัตนตรัยภายใน เป็นที่พึ่งที่ระลึกไปนรกได้ไปสวรรค์ได้แม้ไปพระนิพพานก็ยังได้ ไปนรกสวรรค์ไปจับมือถือแขนสัตว์นรกหรือชาวสวรรค์ได้ ไปพูดจาโต้ตอบกันได้ ญาติ บิดามารดา ปู่ย่าตายาย ไปตกนรก พระธรรมกายไปช่วยได้ ด้วยอานุภาพ พระธรรมกายที่ไม่มีประมาณ
Vijja Dhammakaya is like the leaf in the forest that any Buddhist philosopher lacks the chance to study more deeply, so, it could be difficult to truly understand. Even if an academic of the fail to study this, then Vijja Dhammakaya will be difficult for them to understand clearly. Therefore, Dhammakaya is well known only in a limited group of people, it’s only for a special team that grouped for the advanced Dhammakaya knowledge. On the other hand, other people will realize that Dhammakaya is the Dhamma inside which can lead us to hell, heaven or Nibanna. We can go to hell or heaven and visit our relatives. If one was in hell, the power of the Buddha’s Dhammakaya can free them from suffering.
นี่คือสิ่งที่ทุกคน ที่อยู่นอกโรงงานทำวิชชาเข้าใจ ได้เพียงแค่นี้เท่านั้น แต่ลึกซึ้งไปกว่านั้น ก็รู้กัน ในเขตจำกัดนี้เอง วิชชาธรรมกายนี้ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะเอาชนะพญามารกันได้ ที่จะทำให้สันติสุข และสันติภาพของโลกที่แท้จริงบังเกิดขึ้น นอกเหนือจากนี้แล้ว สันติภาพของโลกและสันติสุขที่แท้จริงของโลก ไม่อาจที่จะเกิดขึ้นได้ไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆทั้งสิ้น
This is a little knowledge that people know. This specific knowledge will be known only in a limited person. Vijja Dhammakaya is the most significant thing to defeat Mara and make the world peace. Other than Vijja Dhammakaya, nothing can make world peace happen.
สุดท้ายนี้ด้วยบุญที่ทุกคน ได้มาพร้อมใจกัน ประกาศคุณบูชาธรรมพระเดชพระคุณหลวงปู่พระผู้ปราบมาร ธรรมยาตราเส้นทางพระผู้ปราบมาร ด้วยความเคารพเลื่อมใส ก็จะทำให้เราได้รับอานิสงส์ทำให้เกิดในตระกูลสูง จะเป็นผู้ที่ได้รับการเคารพนับถือกราบไหว้ จะเป็นที่ยกย่องของมหาชน เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย กิตติศัพท์อันงามของเราจะฟุ้งขจรขจายไปทั่ว เราจะได้เกิดในร่มเงาพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย จะเป็นผู้มีศรัทธาตั้งมั่น เป็น สัมมาทิฏฐิบุคคล จะได้มนุษย์สมบัติอันเลิศ พร้อมทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ และมีสมบัติตักไม่พร่อง สมบัติอัศจรรย์ในภพชาติที่มาบังเกิด เมื่อมีทรัพย์แล้วก็จะไม่ตระหนี่ จะมีโอกาสได้ทำบุญ ในบุญเขตอันเยี่ยมกับทักขิไณยบุคคล จะมีสุคติโลกสวรรค์เป็นที่ไป แล้วก็จะได้บรรลุมรรคผลนิพพาน โดยเร็วพลันเทอญ
Therefore, according to the merit that all of you are gathering to announce the virtue of Phra Mongkolthepmuni Sodh Candasaro, Mara Vanquisher, in the Pilgrimage Path of the Great Master with the faithful mind. May this merit enable you to reborn into a Buddhist family with a solid belief in Buddhism, be a respectable person for both human and celestial beings. May your virtue become reknowned in the world, may you attain the Vijja Dhammkaya Buddhist era, be born in right view. May you attain the human wealth, the supreme physical attributes, material wealth, virtuous wealth with no end. Once having wealth, may you be a generous person, having a chance to accumulate the merit in the merit area and to the right virtue person. May you be destined for the fortunate realm and attain Nibanna sooner and forever.
วัดปากน้ำ สถานที่ทำวิชชา
ทบทวนโอวาท
น้อมรำลึกถึงวัดปากน้ำภาษีเจริญ 28 มกราคม 2564
วัดปากน้ำภาษีเจริญสถานที่ทำวิชา สู้รบปรบมือกับพญามาร
法胜师父分享珍贵的佛法
一起回忆深修法身法门降魔之地,曼谷帕世乍能区北榄寺
พระเดชพระคุณหลวงปู่พระผู้ปราบมาร เมื่อมาเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดปากน้ำภาษีเจริญ ท่านก็เป็นทั้งครูและนักเรียน เป็นครู ครูสอนสมาธิไปด้วย ในที่สุดก็มีผู้บรรลุธรรมเข้าถึงธรรมกายเพิ่มขึ้นอีกมาก เป็นนักเรียน คือท่านก็ศึกษาค้นคว้าวิชชาธรรมกายต่อไปด้วย จนกระทั่งได้พบเรื่องราว ที่เกี่ยวกับเรื่องหน้าที่ของท่านและทีมงานของท่าน ที่ท่านจะต้องลงมาเกิด มาทำหน้าที่สำคัญ ที่จะมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรม ที่จะไปขจัดต้นตอของกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไป ตรวจตรามองกันไปเรื่อย ศึกษาไปเรื่อย โดยเข้ากลางของกลางไปตามลำดับ ในที่สุด ก็รวบรวมธาตุธรรมพิเศษ ที่มาเกิดเพื่อการนี้ ที่จะศึกษาค้นคว้าวิชชาธรรมกายรวมกันได้เป็นกลุ่มเป็นก้อน
那时,帕蒙坤贴牟尼祖师去北榄寺担任住持,祖师边做老师边做学生,教导大众打坐,最终有越来越多的人证得法身法门。祖师也不断地修习法身法门,直至了解了自己的职责和团队。祖师的诞生,有很重要的责任,一直到达法的究竟,灭除漏尽至烦恼的根源,不断地观查,深入探究,层层的进入中央的中央,召集有缘的人诞生,并且来学习法身法门,成为团队。
ตั้งแต่ท่านอายุได้ 47 ปี ก็เริ่มทำสงครามภายใน ซึ่งเป็นสงครามที่แท้จริง เป็นสงครามที่ไม่ได้ใช้ศาสตราวุธยุทโธปกรณ์ ไม่มีการพลัดพราก มีแต่ความสุขและความบันเทิง ทุกขั้นตอนของการทำสงครามที่แท้จริงกับกิเลสอาสวะ และพญามารภายใน ศึกษาค้นคว้ากันเรื่อยไป โดยแบ่งเป็น 2 กะ กลางวัน 6 ชั่วโมง กลางคืน 6 ชั่วโมง ค้นคว้ากันเรื่อยไป จนกระทั่งถึงยุคที่คุณยายอาจารย์ของเราได้มีส่วนอย่างสำคัญ ในการได้เข้าสู่สมรภูมิที่แท้จริง รบกันด้วยธรรมาวุธ ด้วยธรรมกายไม่มีการสูญเสียใดๆทั้งสิ้น นอกจากบุญบันเทิงมีความสุขทุกขั้นตอนเรื่อยไป
在祖师47岁时,成立的深修工厂开始内在的战争,这也是真正的战斗,不需要任何的武器,也没有分离。与漏尽至烦恼作战斗的每一步和降魔都非常快乐和有趣。不断地研习深修,深修分为两个班,白天六小时,晚上六小时。直到奶奶的时代,在真正的战场中起到了重要作用。用法身作为战斗的武器,没有任何的损失,除了功德的快乐之外。
กระทั่งเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เกิดการรบราฆ่าฟันกันไปทั่วโลก ท่านก็ศึกษา ค้นคว้าไปด้วย แก้ไขทุกข์มนุษย์ไปด้วย ศึกษาไปค้นคว้าไป แก้ไขไม่ให้มนุษย์ รบกันเอง เพราะว่ามนุษย์ไม่ได้รู้ว่าเกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายของชีวิต ถูกเขาจับปั่นเหมือนจิ้งหรีดให้กัดกัน โดยเอากิเลสอาสวะมาบังคับ แล้วก็บดบัง ไม่ให้รู้เป้าหมายในชีวิตของตัว ไม่ให้รู้ว่า เป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นพี่น้องกัน ไม่ให้รู้เรื่องราวว่าจะต้องมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรมด้วยกัน ให้รบกันเองไปอย่างนั้น ท่านก็พยายามแก้ไข เหตุในเหตุกันเรื่อยไป โดยทำทั้งกลางวันและกลางคืน มีทีมงานซึ่งเป็นธาตุธรรมพิเศษอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งอุบาสิกาและพระ เณร ได้ประกอบวิชาธรรมกายกัน
直至第二次世界大战,祖师一边研习法门,一边解决人类的苦,边学习边研究,解决不让人类互相战争的问题。因为人类不知生而为人是为了什么,什么是人生目标,被魔罗捉弄,就如斗蟋蟀一样。用漏尽至烦恼强迫和遮蔽无明,不知自己的生命目标,也不知互相间是家人兄弟姐妹,更不知道如何到达法的究竟。让人类互相斗。祖师努力的解决根源的根源。由优婆夷、比丘和沙弥们组成的深修团队,不分白天与黑夜担任此重要的工作。
คุณยายอาจารย์ของเรา ท่านก็เป็นหนึ่งในนั้น ท่านเป็นหัวหน้าเวรขาดรู้ ซึ่งต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เกี่ยวกับเรื่องเหตุผล ที่จะตอบกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ที่ซักถามตามหลักวิชา ทั้งหยาบและละเอียด หยาบก็ถามเกี่ยวกับสงครามโลก ละเอียดก็ถามสงครามภายใน ก็แก้ไขกันไป จนกระทั่ง สงครามโลกสงบลง
我们的奶奶也在其中。奶奶是轮值组的组长,负责找到问题的原因。要回答祖师提出的粗糙和细腻的问题。粗糙的问题是关于世界大战,细腻的问题关于内部的战争,一直的解决问题直到世界大战结束。
คุณยายของเรา ได้รับการยกย่อง จากปากคำของพระเดชพระคุณหลวงปู่ว่า เป็นหนึ่งไม่มีสอง คือสู้อย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันทีเดียว โดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดเลย มุ่งไปสู่ที่สุดอย่างเดียวเท่านั้น พูดครั้งเดียว มีพยานที่เป็นหลักฐานหลายท่าน รับรองในคำพูดของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ซึ่งคุณยายท่านก็รับฟังด้วยใจที่เป็นปกติ การศึกษาวิชชาธรรมกาย เป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้ง จิตต้องบริสุทธิ์ และไม่มีอะไรเหนียวรั้ง ไม่เกาะเกี่ยว กับเรื่องคน สัตว์ สิ่งของ จึงจะไปรู้เรื่องราวสิ่งเหล่านี้ได้ เพราะเรื่องราวเหล่านี้ นี่มันเหลือวิสัย และยากต่อการเข้าใจ ด้วยวิธีการให้เหตุผลธรรมดา หรือจะไปหาหลักฐานอ้างอิง หรือจะใช้ความนึกคิดด้นเดาเอานั้นไม่ได้ แล้วมันก็เป็นสิ่งที่นอกเหนือจากนักการศึกษาพระพุทธศาสนา หรือปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาได้ศึกษาค้นคว้า เหมือนใบไม้ในป่าประดู่ลาย
奶奶被祖师称赞为独一无二的,奶奶不惜牺牲性命,没有任何的迟疑,一心前往究竟之道。虽然只是说一次而已,但有很多证据证明祖师的赞誉是真实存在的。奶奶对于祖师所说,都非常认真,并且精进研习法身法门,这是非常深奥之事,心一定要纯净,不与任何的东西攀缘,不牵挂任何的人、事和物,如此才能真正的了解这些事。因为这些事很难理解,用简单的推理或参考证据,亦或者是猜测,那么这些是超越佛教学者或佛教智者的研习。这就好像森林里的树叶一样。
ซึ่งสมัย 1 พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านกอบใบไม้มากำมือหนึ่ง ถามพระภิกษุว่า ใบไม้ในกำมือ กับใบไม้ในป่าประดู่ ส่วนไหนมีมากกว่ากัน ภิกษุตอบว่า ใบไม้ในป่าประดู่ มีมากกว่าใบไม้ในกำมือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็ได้กล่าวเอาไว้ว่า สัพพัญญุตญาณของเรานั้น รู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอดในสรรพสัตว์ และสรรพสิ่งทั้งปวง โดยไม่มีขอบเขตจำกัด แต่ว่า สิ่งที่เราเอามาสอนเธอนี้ เพียงนิดเดียว เพื่อเป็นทางหลุดทางพ้น จากกิเลสอาสวะ จากภพทั้งสาม จากกฎแห่งกรรม เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้งเท่านั้น
在佛陀时代,佛陀一手拿着树叶,然后问一位比丘:我手中的树叶与森林里的树叶哪里的更多?比丘回答:森林里的树叶比手中的树叶多。于是,佛陀说:通晓一切的智慧,能了知一切众生和诸物,没有任何的界限,但今天我们所教导给大家的是解脱之道,通过脱离三界的烦恼、因果之律,证得究竟涅槃。
วิชชาธรรมกาย เหมือนใบไม้ในป่าใหญ่ ซึ่งปราชญ์ในทางพระพุทธศาสนานั้น ไม่ได้ให้โอกาสกับตัวเอง ในการศึกษาธรรมะปฏิบัติให้มันลึกซึ้งขึ้นไป ก็ยากต่อการที่จะได้เข้าใจ แม้แต่นักวิชาการทางพระพุทธศาสนาในระดับโลก เมื่อไม่ได้ให้โอกาสตัวเองศึกษา ก็ยากที่จะเข้าใจสิ่งนี้ได้ เพราะฉะนั้นคำว่าวิชชาธรรมกาย จึงรู้กันอยู่แต่ในขอบเขตจำกัด สำหรับธาตุธรรมพิเศษ คือในโรงงานทำวิชชาเท่านั้น นอกนั้น ก็รู้แต่เพียงว่า ธรรมกาย คือพระรัตนตรัยภายใน เป็นที่พึ่งที่ระลึกไปนรกได้ไปสวรรค์ได้แม้ไปพระนิพพานก็ยังได้ ไปนรกสวรรค์ไปจับมือถือแขนสัตว์นรกหรือชาวสวรรค์ได้ ไปพูดจาโต้ตอบกันได้ ญาติ บิดามารดา ปู่ย่าตายาย ไปตกนรก พระธรรมกายไปช่วยได้ ด้วยอานุภาพ พระธรรมกายที่ไม่มีประมาณ
法身法门就像是一个大森林的树叶,而佛教的学者没有给自己深入研习与实践的机会。那么将会很难理解,即使是世界级的佛教学者也无法真知。如果不给自己一个学习的机会,那么很难理解这些事。因此,认识法身法门是有限的,只有那些特殊法元素的人,即是深修工厂才能真正认识。除此之外,只知道法身即是内在的三宝,是最高尚的依靠,能去往天界,也能去往地狱,甚至涅槃处都能去。去天界 跟天人手牵手和地狱众生交流斗嘴都可以,甚至亲戚朋友、父母、爷爷奶奶外公外婆坠入地狱,凭借法身无量的威德力都可以去帮助他们。
นี่คือสิ่งที่ทุกคน ที่อยู่นอกโรงงานทำวิชชาเข้าใจ ได้เพียงแค่นี้เท่านั้น แต่ลึกซึ้งไปกว่านั้น ก็รู้กัน ในเขตจำกัดนี้เอง วิชชาธรรมกายนี้ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะเอาชนะพญามารกันได้ ที่จะทำให้สันติสุข และสันติภาพของโลกที่แท้จริงบังเกิดขึ้น นอกเหนือจากนี้แล้ว สันติภาพของโลกและสันติสุขที่แท้จริงของโลก ไม่อาจที่จะเกิดขึ้นได้ไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆทั้งสิ้น
这些是深修工厂的每个人都可以理解,仅是这些而已,更加深奥之事就有一定的局限了。法身法门非常重要,它能战胜魔,让世界实现真正的祥和。除此之外,没有任何的方式,能让世界和平和真正的快乐出现。
สุดท้ายนี้ด้วยบุญที่ทุกคน ได้มาพร้อมใจกัน ประกาศคุณบูชาธรรมพระเดชพระคุณหลวงปู่พระผู้ปราบมาร ธรรมยาตราเส้นทางพระผู้ปราบมาร ด้วยความเคารพเลื่อมใส ก็จะทำให้เราได้รับอานิสงส์ทำให้เกิดในตระกูลสูง จะเป็นผู้ที่ได้รับการเคารพนับถือกราบไหว้ จะเป็นที่ยกย่องของมหาชน เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย กิตติศัพท์อันงามของเราจะฟุ้งขจรขจายไปทั่ว เราจะได้เกิดในร่มเงาพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย จะเป็นผู้มีศรัทธาตั้งมั่น เป็น สัมมาทิฏฐิบุคคล จะได้มนุษย์สมบัติอันเลิศ พร้อมทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ และมีสมบัติตักไม่พร่อง สมบัติอัศจรรย์ในภพชาติที่มาบังเกิด เมื่อมีทรัพย์แล้วก็จะไม่ตระหนี่ จะมีโอกาสได้ทำบุญ ในบุญเขตอันเยี่ยมกับทักขิไณยบุคคล จะมีสุคติโลกสวรรค์เป็นที่ไป แล้วก็จะได้บรรลุมรรคผลนิพพาน โดยเร็วพลันเทอญ
最后,愿我们今天齐聚于此,虔诚的宣扬祖师德行,佛法巡礼祖师圣地的功德。让我们每一位弟子,出生在贵族,获得大众的爱戴,得到大众的赞扬,人天爱戴,声名远扬。能出生在佛教的国家,得遇法身法门,对三宝坚定不移,虔诚信仰,是正见之人,有敏捷的智慧,并且获得圆满的色财、金钱财和能力财,将有取之不尽用之不竭的财富。每一次转世来人间,人富裕,且不吝啬修布施,有机会修功德布施卓越的正僧,往生后去往善道。并且能早日证得涅槃,能精通祖师所精通的法。早日证得涅槃。