มารยาทของพระภิกษุ
出家人的威仪
ความหมายของมารยาท
威仪的定义
มารยาท หรือ อาจาระ หมายถึง ระเบียบแบบแผน หรือขอบเขตอันเป็นข้อจำกัดที่บุคคลพึงประพฤติปฏิบัติให้เกิดขึ้นทางกายและทางวาจา ซึ่งเป็นสิ่งที่มองเห็นได้ง่าย เพื่อความสงบสุขทั้งแก่ตนเองและส่วนรวม
威仪是指规则惯例或限制一个人在身与口方面的行为规范,有助于促进个人与团体的和合安乐。
มารยาทและการวางตัวที่เหมาะสมจึงเป็นปราการด่านแรกที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ผ่านการฝึกฝนอบรมตนมาดี มีคุณสมบัติของผู้มีวัฒนธรรมอันเจริญ สามารถยังจิตของผู้พบเห็นให้ยินดีเลื่อมใส นอกจากนี้ยังเป็นการแสดงถึงความเป็นผู้มีความเคารพอ่อนน้อม ส่งผลให้เกิดความเคารพในพระรัตนตรัยและความเคารพในการปฏิสันถารอีกด้วย
因此,一个人得体的行为举止是展现良好人格的第一道防线。具备优秀素质的人能让见者心生欢喜与信仰,也从侧面体现了自身的谦卑,进而也让他人对三宝心生敬重,以及尊重彼此的对话。
พระภิกษุคือผู้ที่ตั้งใจฝึกฝนอบรมตนเพื่อให้เกิดความสงบ เรียบร้อย น่าเลื่อมใส และเป็นที่ตั้งแห่งศรัทธา ตามอย่างองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในเรื่องของมารยาทหรืออาจาระของพระภิกษุนั้น สามารถแบ่งได้เป็น ๖ ลักษณะใหญ่ๆ คือ
出家人是一个立志通过训练使自己成为身心清净、威仪庄严、值得信仰的人。根据佛陀的规定,出家人的威仪特征可分为六组:
๑. มารยาทในการยืน
1.站立的威仪
๑.๑ การยืนตามลำพัง
1.1单独站立
ยืนให้ขาทั้งสองข้างชิดกัน หรืออยู่ในท่าพักแขนปล่อยแนบลำตัว หรือจะประสานมือไว้ข้างหน้าเล็กน้อย หรือจะยืนเอียงข้างนิดหน่อยก็ได้ แต่ต้องให้อยู่ในท่วงทีที่สง่างาม อย่ายืนขากาง แกว่งแขน หันหน้าไปมา ลุกลี้ลุกลนหรือหลุกหลิก แคะ แกะ เกา เป็นต้น
双腿并拢站立,双手自然放下或者交叉紧握放在身前,或者稍微侧身站立,保持优雅的姿势。不得叉腿、摆臂、左顾右盼、慌忙、站立不安、抓、挠等。
๒.๑ การเดินตามลำพัง
2.1独自行走
ให้เดินอย่างสุภาพ หลังตรง ช่วงก้าวไม่ยาวหรือสั้นจนเกินไป แกว่งแขนแต่พองาม
走路端正庄重,背部挺直,步伐不宜过大或过小,摆臂自然优美。
๒.๒ การเดินกับพระผู้ใหญ่
2.2与长老同行
ให้เดินไปทางซ้ายค่อนไปด้านหลังของท่านเล็กน้อย เว้นแต่ต้องเดินในที่จำกัด จึงเดินตามหลังเป็นแถว ท่าเดินต้องนอบน้อม ช่วงก้าวพองาม อย่าเดินส่ายตัวหรือโคลงศีรษะ
在长老的左侧身旁随行,如果在有限区域内行走,可跟在长老的正后方,步态从容,步伐适中,身体不左摇右摆或摇头晃脑。
ในกรณีที่ต้องเดินตามหลังระยะใกล้ๆ ต้องคอยสังเกตว่าพระผู้ใหญ่ที่ท่านเดินนำอยู่นั้น จะหยุด ณ ที่แห่งใด จะได้ชะลอฝีเท้าลง ป้องกันมิให้เดินชนท่าน
如果行走的距离不长,需随时留意前面的长老突然停下,要放慢自己的脚步不要撞到长老。
๓.๑ การนั่งพับเพียบ
3.1侧坐
การนั่งพับเพียบเป็นการนั่งที่นิยมกันในหมู่ชาวพุทธ ถือว่าสุภาพเรียบร้อย งดงามน่าดูน่าชม ถือปฏิบัติกันมาแต่ครั้งโบราณกาลจนถึงทุกวันนี้ นิยมปฏิบัติประจำทั้งทางโลกและทางธรรม โดยเฉพาะขณะเข้าร่วมประชุม ณ สถานที่ที่ต้องนั่งกับพื้น การนั่งพับเพียบมี ๒ ลักษณะคือ
侧坐是佛教徒常见的坐姿,被认为是一种庄严有礼的坐姿,从古沿用至今,流行于僧俗两众,特别是有时需坐在地板上举行会议。侧坐分为两种:
๑) การนั่งพับเพียบขวา ให้นั่งพับขาขวา ปลายเท้าขวาหันไปทางด้านหลังหงายฝาเท้าซ้ายขึ้นวาง ขาขวากับฝ่าเท้าซ้ายหรือเพียงแค่แตะจรดขาขวาบริเวณหัวเข่าตั้งกายให้ตรง ระวังอย่าให้นิ้วเท้าซ้ายเกินหัวเข่าขวาออกมาข้างหน้า
(1)向右侧坐,右腿折叠,右脚尖转向后方,左脚脚掌朝上,右腿压住左脚脚掌,或者左脚趾触及右腿膝盖处,上身保持挺直,注意不让左脚趾前伸超过右膝盖。
๒) การนั่งพับเพียบซ้าย ให้นั่งพับขาซ้าย ปลายเท้าซ้ายหันไปทางด้านหลังหงายฝ่าเท้าขวาขึ้นวาง ขาซ้ายทับฝ่าเท้าขวาหรือเพียงแค่แตะจรดขาซ้ายบริเวณหัวเข่า ตั้งกายให้ตรง ระวังอย่าให้นิ้วเท้าขวาเกินหัวเข่าขวาออกมาข้างหน้า
(2)向左侧坐,左腿折叠,左脚尖转向后方,右脚脚掌朝上,左腿压住右脚脚掌,或者右脚趾触及左腿膝盖处,上身保持挺直,注意不让右脚趾前伸超过左膝盖。
๓.๒ วิธีการเปลี่ยนท่านั่งพับเพียบ
3.2如何换侧坐的姿势
ใช้มือทั้งสองยันที่หัวเข่าทั้งสอง หรือยันพื้นด้านข้างลำตัวหรือด้านหน้า แล้วกระหย่งตัวขึ้นพร้อมกับพลิกเปลี่ยนเท้าพับไปอีกข้างหนึ่ง โดยพลิกเท้าผลัดเปลี่ยนกันอยู่ด้านหลัง ไม่นิยมยกมาผลัดเปลี่ยนทางด้านหน้า เพราะจะดูไม่สุภาพเรียบร้อย (การเปลี่ยนจากท่านั่งพับเพียบ เป็นท่านั่งขัดสมาธิ หรือเปลี่ยนจากท่านั่งขัดสมาธิเป็นท่านั่งพับเพียบ ก็ใช้วิธีการเดียวกัน คือพลิกเท้าผลัดเปลี่ยนกันอยู่ด้านหลัง)
双手放在双膝上,或放在身体侧面又或前面,上身稍微向前倾斜,然后将双腿翻转至另一侧,该翻转动作应在身后完成,不宜在身前完成,因为那样既不礼貌也不雅观。(从侧坐换成盘坐或从盘坐换成侧坐方式都一样,即在身后完成双腿翻转的动作。)
๓.๕ โทษแห่งการนั่ง ๖ อย่าง
3.5六种坐姿禁忌
๑) นั่งไกลนัก บุคคลนั่งอยู่ในที่ไกลกันนัก ถ้ามีความประสงค์จะพูด จะต้องพูด
(1)彼此坐得太远,不方便交流。
๒) นั่งใกล้กันนัก ย่อมทำความเบียดเสียดกัน
(2)彼此坐得太近,会过于拥挤。
๓) นั่งเหนือลม ย่อมรบกวนคนอื่นด้วยกลิ่นตัว
(3)坐在风口处,体味会困扰他人。
๔) นั่งที่สูง ย่อมประกาศความไม่เคารพ
(4)坐在高位被视为不尊重的表现。
๕) นั่งตรงหน้าเกินไป ถ้ามีความประสงค์จะดู จะต้องจ้องดูตาต่อตากัน
(5)坐得太正前方,如果想看什么将形成彼此对视。
๖) นั่งข้างหลังเกินไป ถ้ามีความประสงค์จะดู จะต้องยื่นคอออกไปดู
(6)坐得太靠后,如果想看什么得伸长脖子看。
ข้อพึงปฏิบัติในการวางตัว
为人处世之道
ในการวางตัวของพระภิกษุ มีข้อพึงปฏิบัติที่สำคัญต่อกลุ่มบุคคล ๓ กลุ่มหลักๆ ด้วยกัน คือ
出家人在为人处世中,面对三种人群的重要行为准则:
๑. การวางตัวกับพระภิกษุ
1.出家人之间的相处之道。
๒. การวางตัวกับอุบาสิกา
2.出家人与优婆塞的相处之道。
๓. การวางตัวกับสาธุชน
3.出家人与信众的相处之道。
๑. การวางตัวกับพระภิกษุ
1.出家人之间的相处之道
๑.๑ การวางตัวกับพระผู้ใหญ่
1.1与长老(戒腊比自己高)相处
๑) ต้อนรับท่านด้วยอาการยิ้มแย้มเบิกบาน
(1)热情微笑地迎接长老。
๒) เมื่อพบท่านให้แลดูด้วยจิตเลื่อมใส
(2)相遇时净信地望向长老。
๓) แสดงความเคารพท่านก่อน อย่ารอช้า
(3)先向长老表达敬意,不拖延。
๔) ต้อนรับท่านด้วยไทยธรรมหรือให้ความสะดวกสบายแก่ท่าน
(4)以供养品迎接长老或为其提供舒适与方便。
๕) หัดสังเกตว่าท่านชอบหรือไม่ชอบสิ่งใด
(5)留意观察长老喜欢什么或不喜欢什么。
๖) รู้ว่ากาลใดควรพูด กาลใดควรฟัง กาลใดควรนิ่ง
(6)什么时候该说话,什么时候该倾听,什么时候该沉默。
๗) ตั้งน้ำฉัน น้ำใช้ ทำความสะอาดเสนาสนะ คอยอุปัฎฐากรับใช้ท่าน
(7)备好饮用水和洗漱水,打扫住所,服务长老。
๘) ไม่แสดงท่าทีแข็งกระด้างต่อท่าน ให้อ่อนน้อมอยู่เสมอ
(8)不应对长老表现出无礼的态度,应保持谦卑。
๙) ตั้งใจทำตามคำสั่งสอนของท่านด้วยความเคารพ
(9)尊重并听从长老的指示。
๑๐) ตระหนักถึงคุณความดีของท่านแล้วน้อมมาประพฤติปฏิบัติ
(10)肯定长老的美德,自己也要认真培养。
๑๑) กล่าวสรรเสริญคุณความดีของท่านเมื่อมีโอกาส
(11)有机会应赞美长老的美德。
๑๒) ไม่นินทาว่าร้าย หรือลบหลู่ดูหมิ่นท่าน
(12)不指责或轻视长老。
๑๓) ไม่ตีตนเสมอท่าน แม้ท่านจะให้ความคุ้ยเคยก็ตาม
(13)即便熟悉也不要以平辈自居。
๑๔) ไม่พูดเหน็บแนม กระทบกระเทียบท่าน
(14)不应嘲讽长老。
๑๕) ไม่บอกให้ท่านช่วยทำนั่นทำนี่ ถ้าจำเป็นควรปรึกษาท่านก่อน
(15)不应指使长老做事,如有需要应先征求长老。
๑๖) ไม่พูดหยอกล้อ เล่นลิ้นกับท่าน อย่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง
(16)不应不知深浅轻重地取笑戏弄长老。
๑๗) ไม่นำข้อบกพร่องของท่านไปเล่าให้ผู้อื่นฟัง
(17)不应将长老的缺点告知他人。
๑๘) ไม่นำคำพูดของท่านมาล้อเลียน
(18)不应取笑长老的话。
๑๙) ไม่คึกคะนองเฮฮา คะนองมือคะนองเท้าต่อหน้าท่าน
(19)不应在长老面前嘻嘻哈哈、手舞足蹈。
๒๐) ควรใช้คำพูดสุภาพ นุ่มนวล ไพเราะ มีสัมมาคารวะต่อท่าน
(20)应对长老使用礼貌、委婉、悦耳的语言。
๒๑) สังเกตดูจังหวะและอารมณ์ของท่านให้ดีก่อนจะพูดอะไร
(21)在说话前先留意时机和长老的情绪。
๒๒) ไม่ถือวิสาสะจับต้องหรือใช้ของส่วนตัวของท่าน
(22)请勿擅自触摸或使用长老的个人物品。
๒๓) ไม่ใช้ของที่ดีกว่าหรือเสมอกับท่าน
(23)不应使用比长老更好或同等质量的东西。
๒๔) จะไปไหนมาไหนบอกให้ท่านทราบก่อน
(24)自己去哪里应先告知长老。
๒๕) การจะทำอะไรถ้าไม่แน่ใจควรปรึกษาท่านก่อน อย่าผลีผลาม
(25)做事情若不知如何着手,先咨询长老,不应操之过急。
๒๖) ดูแลรับใช้ท่านยามป่วยไข้
(26)长老生病时应给予照顾。
๒๗) ระมัดระวังในเรื่องกิริยา มารยาท ต้องฝึกฝน
(27)注意礼仪,自己要先练习。
๒๘) ฝึกนั่งให้เรียบร้อย ไม่นั่งกอดเข่า เท้าแขน หรือนั่งหลังงอ
(28)练习正确的坐姿,不抱膝,不用臂撑地或弯腰坐着。
๒๙) ไม่นั่ง นอน ยืน เดิน เบียดพระเถระ
(29)不要坐在、躺在、站在、走在或挤压长老。
๓๐) เมื่อท่านนั่งกับพื้นต้องคุกเข่าไปหรือนั่งพับเพียบ
(30)当长老坐在地板上时,自己应跪着或侧坐。
๓๑) ต้องให้ที่นั่งอันสมควรแก่ท่านก่อน
(31)先给长老安排合适的座位。
๓๒) ไม่แย่งที่ดูหรือที่นั่งท่าน
(32)不要抢占长老的位置或座位。
๓๓) ขณะอยู่กับท่านอย่าหันหลังให้
(33)与长老在一起时不应背对长老。
๓๔) เวลาเดินผ่านท่านให้ก้มตัวหรือหลีกทางให้ท่านไปก่อน
(34)经过长老身边,要弯腰或先给长老让路。
๓๕) ไม่ยืนหรือนั่งในที่สูงกว่าท่าน
(35)不要站或坐在比长老高的位置。
๓๖) เวลาหยิบของในที่สูงกว่าท่านต้องกล่าว “ขออนุญาต” ท่านก่อน
(36)取高过长老的东西时,应先征求长老许可。
๓๗) ท่านคุยธุระกันอยู่ ควรปลีกตัวหรือหลบสายตา
(37)长老在商讨事情时,应先回避或闭上眼睛静心。
๓๘) ไม่เข้าห้องท่านก่อนได้รับอนุญาต
(38)未经允许不得进入长老的寮房。
๓๙) ไม่ชี้หรือยกมือผ่านข้ามศีรษะท่าน
(39)不要用手指向或举过长老的头顶。
๔๐) ไม่ล่วงเกินถูกต้องตัวท่าน ถ้าจำเป็นต้องกล่าว “ขออนุญาต” ท่านก่อน
(40)不要触碰长老,如有必要,应先征求长老许可。
๔๑) ไม่ทำเสียงดังใดๆ เมื่อท่านทำกิจอยู่
(41)长老处理工作时不要发出任何噪音。
๔๒) ถ้าท่านเดินนำหน้าอยู่ ไม่ควรเดินแซงท่าน ถ้าจำเป็นต้องขออนุญาตก่อน
(42)如果长老走在前面,不应超越长老,如有必要,应先征求长老许可。
๔๓) ไม่ควรเดินสวนทางกับท่าน ควรหยุดแสดงความเคารพท่าน
(43)不应默默地与长老擦肩而过,应停下来合十以示敬意。
๔๔) ถ้าท่านเดินสวนทางแล้วไม่กางร่ม เราควรหุบร่มก่อนและทำความเคารพท่าน
(44)如果迎面走来没有撑伞,我们应先把伞收起来,向长老合十以示敬意。
๔๕) เมื่อเดินตามหลังท่าน ควรอยู่ทางซ้ายมือค่อนไปข้างหลัง
(45)当跟随长老身后时,应位于长老左侧稍靠后的位置。
๔๖) ในขณะเดินไม่ต้องพนมมือ ยกเว้นเราจะพูดกับท่านค่อยพนมมือ
(46)跟随长老走路无需合十掌,除非是与长老交谈时才需要。
๔๗) ในขณะเดินแถวอยู่ไม่ต้องแสดงความเคารพท่าน
(47)排队时无需向长老合十以示敬意。
๔๘) ถ้ามีพระผู้ใหญ่ที่สำคัญๆ มาที่วัด ควรยืนตั้งแถวพนมมือต้อนรับท่าน
(48)如果有重要高僧参访寺院,应列队合十迎接。
๑.๒ การวางตัวกับพระรุ่นเดียวกัน
1.2与同届道友(相同戒腊)的相处之道
๑) พูดคุยกันในฐานะคนรักใคร่ ไม่แสดงอาการรังเกียจกัน
1.彼此亲切交谈,不应相互厌恶。
๒) ให้กำลังใจกัน เป็นกัลยาณมิตรแก่กันอยู่เสมอๆ
2.相互鼓励,作为彼此的善知识。
๓) ไม่นินทาว่าร้าย ยุยงส่อเสียดให้เพื่อนทะเลาะกัน
3.不指责或挑拨朋友吵架。
๔) ไม่พูดคุยทับเพื่อน ถือทิฐิมานะ ดูถูกดูหมิ่นกัน
4.不议论朋友、不固持己见、不相互侮辱。
๕) พูดคุยกันด้วยความรักความปรารถนาดีต่อกัน
5.彼此友善地交谈。
๖) ควรกล่าวแต่วาจาสุภาพไพเราะ ไม่ระคายหูทำให้ขุ่นเคืองกัน
6.说话有礼动听,不说不顺耳的话而生气。
๗) สรรเสริญคุณของเพื่อนในโอกาสอันควร
7.在合适的场合赞扬道友的美德。
๘) ไม่พูดคุยเสียงดังขณะเพื่อนทำกิจอยู่
8.道友处理工作时不应大声说话。
๙) ไม่เข้าไปยุ่งในเรื่องส่วนตัวของเพื่อนจนเกินไปนัก
9.不要过多干涉道友的私人事务。
๑๐) กล้าชี้ขุมทรัพย์ให้กันและกันด้วยความปรารถนาดี
10.善意的指正对方。
๑๑) ไม่เอาข้อบกพร่องของเพื่อนมาวิจารณ์หรือล้อเล่น
11.不要评论或取笑道友的缺点。
๑๒) ห้ามทะเลาะกัน ถ้ามีต้องรีบคืนดีกันให้อภัยซึ่งกันและกัน
12.不要争吵,若发生争吵应及时和好,相互谅解。
๑๓) ไม่จู้จี้จุกจิก ขี้บ่นให้เพื่อนฟัง
(13)不向道友唠叨或抱怨。
๑๔) ไม่นำความลับ หรือเรื่องส่วนตัวของเพื่อนไปเปิดเผย
(14)不泄露道友的秘密或私事。
๑๕) ไม่จับผิด เพ่งโทษซึ่งกันและกัน
(15)不相互挑毛病或指责。
๑๖) ทำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อกัน
(16)做互惠互利的事。
๑๗) มีความจริงใจต่อกัน ไม่มีมายาเสแสร้ง
(17)彼此坦诚相对,不弄虚作假。
๑๘) ควรทำความเข้าใจในอัธยาศัยของเพื่อน ไม่ทำให้เพื่อนหงุดหงิดรำคาญ
(18)应理解道友的秉性,不惹恼对方。
๑๙) ดูแลกันยามเจ็บไข้ได้ป่วย
(19)生病时相互照顾。
๒๐) ไม่ทำให้เพื่อนลำบากใจเพราะเรา ไม่ทำตัวเป็นภาระแก่ใคร
(20)不让道友为难,不成为别人的负担。
๒๑) ก่อนจะขออะไรจากเพื่อนให้พิจารณาก่อน
(21)向道友提出请求前,应先三思。
๒๒) ไม่ถือวิสาสะใช้ของส่วนตัวของเพื่อนก่อนได้รับอนุญาต
(22)未经允许不得占有道友的私人物品。
๒๓) เมื่อได้ลาภอะไรมา ควรแบ่งปันซึ่งกันและกัน
(23)有东西要懂得相互分享。
๒๔) ไม่อิจจาริษยาเมื่อเพื่อนได้ลาภสักการะหรือคำชม
(24)当道友获得供养或赞美时不要嫉妒。
๒๕) พลอยอนุโมทนา ยินดีเมื่อเพื่อนได้ดี
(25)当道友遇到好事,应随喜对方。
๒๖) สนับสนุนส่งเสริมให้เพื่อนทำความดี
(26)支持和鼓励道友行善。
๒๗) หัดจดจำคุณความดี หรือสิ่งที่ดีๆ ของเพื่อนไว้
(27)记住朋友的美德或做的好事。
๒๘) มีความเอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในทุกเรื่อง
(28)在各种事情上要相互支持帮助、慷慨豁达。
๒๙) มีข่าวบุญกุศลใดๆ ก็มาบอกกัน
(29)有什么功德消息要懂得分享。
๓๐) เคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน เคารพในสิทธิของผู้อื่น
(30)相互敬重,懂得尊重他人的权利。
๑.๓ การวางตัวกับพระรุ่นน้อง
1.3与师弟(戒腊比自己低)的相处之道
๑) ประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่รุ่นน้อง
(1)为师弟树立良好的榜样。
๒) อย่าดูเบาบุคลิก อากัปกิริยาท่าทางที่แสดงออก
(2)不要轻视对方展示的个性或举止。
๓)ระมัดระวังกิริยามารยาทต้อง “สงบเสงี่ยมสง่างาม”
(3)注意威仪,保持优雅庄严。
๔) วางตัวเป็นกันเองให้รุ่นน้องอบอุ่น เข้าใกล้แล้วรู้สึกสบายใจ
(4)对待师弟温暖友善,让他们在亲近时感到安心愉快。
๕) ไม่วางตัวสูงเกินไป ไม่ถือตัว
(5)不把姿态摆得太高,不应自命清高。
๖) ไม่ปล่อยตัวลงต่ำ เอาพอดีๆ
(6)不贬低自己,应放平姿态。
๗) ไม่คิดว่าเราดีกว่า เก่งกว่ารุ่นน้อง แล้วไปดูถูกรุ่นน้อง
(7)不要认为自己比师弟优秀而轻视对方。
๘) ไม่อวดเก่ง อวดตัว ว่าเรารู้มาก แล้วไปดูถูกรุ่นน้อง
(8)不应逞能或自认为懂得多而轻视侮辱师弟。
๙) ไม่พูดข่ม กดขี่ บังคับรุ่นน้องด้วยอำนาจบาตรใหญ่
(9)不以权恐吓、压迫或强迫师弟。
๑๐) ไม่ลำเอียง วางตัวให้สม่ำเสมอ
(10)不心存偏见,应一视同仁。
๑๑) ให้ความรักความเอ็นดูเอื้ออาทรรุ่นน้อง
(11)关心爱护师弟。
๑๒) ให้สิ่งของที่ควรตามแต่โอกาส
(12)送东西要合宜。
๑๓) ช่วยดูแลรักษากันยามเจ็บไข้ได้ป่วย
(13)师弟生病时帮忙照顾。
๑๔) เป็นที่พึ่งแก่น้องๆ ช่วยแก้ไขเมื่อเกิดปัญหา
(14)成为师弟的依靠,当他们遇到问题时帮助解决。
๑๕) คอยแนะนำในสิ่งที่รุ่นน้องอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์
(15)当师弟不了解情况时,应跟他们说明情况。
๑๖) คอยให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์
(16)给予师弟有用的建议。
๑๗) ประคับประคองรุ่นน้องให้อยู่ในเส้นทางแห่งความดี
(17)保护师弟,让他们行正道。
๑๘) ไม่พูดให้เสียใจ น้อยใจหรือผิดหวัง
(18)不说让师弟伤心、气馁或失望的话。
๑๙) เมื่อเขาผิดพลาดควรให้อภัยและให้คำแนะนำที่ดี
(19)当师弟犯错时,应原谅并给出好的建议。
๒๐ ) สนับสนุนให้เขาได้แสดงความสามารถในการสร้างความดีอย่างเต็มที่
(20)鼓励师弟充分展示自身行善的能力。
๒๑) ไม่ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นของรุ่นน้อง
(21)不要屏蔽师弟的意见。
๒๒) ให้ความเคารพเลื่อมใสในคุณธรรมที่เขามีอยู่
(22)赞赏尊重师弟所具备的美德。
๒๓) ไม่แสดงกิริยามารยาทอันไม่สมควรให้รุ่นน้องเห็น
(23)不应向师弟展现不恰当的行为举止。
๒๔) พูดกับรุ่นน้องด้วยถ้อยคำไพเราะ อ่อนโยน
(24)与师弟交谈时应使用柔和的悦语。
๒๕) ไม่ประพฤติผิดพระธรรมวินัยให้รุ่นน้องเอาแบบอย่าง
(25)不做违犯戒律的事,导致为师弟树立不良的典范。
๑.๔ การวางตัวกับพระอาคันตุกะ
1.4与来访道友的相处之道
๑) ยิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายปราศรัยกับท่านด้วยความเคารพ
(1)笑容满面,恭敬问候。
๒) พูดคุยด้วยคำสุภาพ ไพเราะ มีสัมมาคารวะ
(2)用礼貌、悦耳、谦恭的语言交谈。
๓) แสดงความกระตือรือร้น ด้วยกิริยาท่าทางที่นอบน้อม
(3)以谦卑的举止展现热情。
๔) ให้การต้อนรับด้วยความยินดี ร่าเริงเบิกบาน ไม่นึกรังเกียจ
(4)热烈愉快地欢迎,不应厌恶对方。
๕) อำนวยความสะดวกจัดหาปัจจัยสี่ให้พร้อม
(5)为访客提供便利,准备好四事。
๖) สนองความต้องการท่าน
(6)尽量满足访客的需求。
๗) ควรถามวัตถุประสงค์การมาของท่านอย่างแนบเนียน
(7)如实了解访客访问的目的。
๘) หัดสังเกตความต้องการของท่าน
(8)留意观察访客的需求。
๙) หัดจดจำชื่อ เรียกชื่อ เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญ
(9)记住访客的名字、称谓,这很重要。
๑๐) ให้ความสบายใจแก่ท่าน บริการท่านเหมือนแขกคนสำคัญ
(10)让对方安心,以贵宾之礼相待。
๑๑) พูดในเรื่องที่ท่านสนใจอยากฟัง
(11)谈论对方感兴趣的内容。
๑๒) ไม่วิจารณ์ฝ่ายใด พูดให้เย็นทั้งเขาและเรา
(12)不评论任何一方,让自己和对方都感到舒心。
๑๓) พูดเป็นอรรถเป็นธรรม ปฏิสันถารด้วยธรรมะ
(13)说话公平有益,相互交流佛法。
๑๔) ให้ธรรมทานตื้นลึกตามความเหมาะสมแก่ท่าน
(14)法布施的深度要根据对方的情况而定。
๑๕) มีความจริงใจ บริสุทธิ์ใจแก่ท่าน
(15)对访客要真诚相待。
๑๖) ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง มีอคติ
(16)不心存偏袒或偏见。
๑๗) ทำจิตให้อ่อนโยน มีเมตตาจิตต่อท่าน
(17)对访客温柔以待、心存慈悲。
๑๘) ตั้งความปรารถนาว่า ผู้มีศีลอันเป็นที่รักที่ยังไม่ได้มาขอให้มา ที่มาแล้วขอให้อยู่เย็นเป็นสุข
(18)期望尚未来访的贤者能来访,愿来访者皆吉祥快乐。
๑๙) รับส่งท่านให้ประทับใจไม่รู้ลืม
(19)要迎送访客,给对方留下深刻的印象。
๒๐) ก่อนท่านจะกลับควรมีของที่ระลึกให้ท่าน และฝากความเคารพไปยังอุปัชฌาย์ของท่าน
(20)在访客离开前,应为他们准备纪念品,并向他们的恩师表达敬意。