เสขิยวัตร หมวดสารูป (Th Ch)

0
18

เสขิยวัตร หมวดสารูป ข้อ ๑-๒

应学法之举止端庄 1-2

พระครูวินัยธรไพบูลย์  ธมฺมวิปุโล

หมวดสารูปนี่จะครอบคลุมเรื่องการแต่งกายของพระภิกษุ รวมถึงมารยาท บุคลิกภาพ และการวางตัว เมื่อเข้าไปสู่ที่ประชุมชน เข้าไปสู่บ้านญาติโยม

应学法之举止端庄包含了比丘着装礼仪,以及进入村庄、集会时应有的言行举止。

ข้อที่ ๑-๒ เราจะนุ่งห่มให้เรียบร้อย

1-2. 我要圆整的穿袈裟、下衣;

พระภิกษุมีผ้าหลัก ๆ อยู่ ๓ ผืน เรียกว่า ไตรครอง คือ ผ้าพาดบ่าเป็นสังฆาฏิ ผ้าห่มคลุมกายเรียกว่าผ้าจีวร  ส่วนผ้านุ่งคล้าย ๆ ผ้าถุงของสตรี เรียกว่าสบงไว้ใช้นุ่ง นี้คือผ้าสามผืน

比丘的主要衣物有三件,称为“三衣”:披在肩上的僧伽利;包裹身体的称为袈裟;至于和女性裙子类似的、包裹下身的,称为下衣。

การนุ่ง เวลาจะนุ่งสบงให้เรียบร้อย

圆整的穿下衣

ประการแรก ขอบผ้าด้านบนต้องปิดสะดือ ไม่ต่ำกว่าสะดือ

第一点,下衣的上缘必须盖住肚脐,不低于肚脐;

ประการที่ ๒ ขอบผ้าด้านล่างต้องได้กึ่งกลางของหน้าแข้ง

第二点,下衣的下缘必须遮盖到小腿的一半;

ประการที่ ๓ ชายผ้าสบงต้องสม่ำเสมอเป็นปริมณฑล เหมือนแก้วน้ำที่คว่ำลง เวลาแก้วน้ำคว่ำลงขอบจะเรียบเสมอกัน ไม่ย้วยหน้าหรือย้วยหลัง อันนี้คือความหมายของคำว่าเรียบร้อยในการนุ่งสบง

第三点,下衣的下摆要圆整齐平,如同倒置的水杯,边缘是平齐一致的,没有前后参差不齐。这就是圆整的穿下衣。

การห่ม การห่มผ้าจีวรนั้นโดยทั่วไปมีอยู่ ๓ แบบหลัก ๆ

披袈裟的方法主要有三种:

แบบที่ ๑ เรียกว่าห่มแบบลดไหล่ หรือภาษาพระเรียกว่าห่มบวบ ใช้ห่มเปิดไหล่ขวาอยู่ในวัดแบบสบาย ๆ ชายของผ้าจีวรปิดสบง คือ ต่ำกว่าสบงนิดหนึ่ง ไหล่ขวาเปิด รักแร้ซ้ายก็บีบม้วนผ้าไว้ เรียกว่าห่มแบบลดไหล่ หรือห่มบวบ

第一种,露肩披法,即是在寺院中偏袒右肩,简单轻松的穿法;袈裟的下摆完全遮盖下衣,右肩袒露,左腋窝夹住卷起来的袈裟。

แบบที่ ๒ เรียกว่าห่มรัดอก หรือห่มดองครับ นอกจากผ้าสามผืนมีผ้ารัดอกเพิ่มขึ้นมา การห่มแบบนี้นิยมใช้ห่มตอนที่ประกอบกิจของสงฆ์ ต้องการความทะมัดทะแมง กระฉับกระเฉง เช่น ห่มในการประกอบพิธีสงฆ์ การบวชพระ การลงโบสถ์ฟังพระปาฏิโมกข์ หรือออกบิณฑบาต

第二种,正式披法,除了穿三衣,增加了绑胸带,这种披法一般用于佛事法会等庄重的场合,如出家仪式、大雄宝殿诵戒、或是托钵化缘。

แบบที่ ๓ เรียกว่าห่มคลุม ผ้าที่ห่มนี้ปิดหลุมคอหรือว่าไหล่ทั้งสองข้างไม่เห็นไหล่ไม่เห็นไหปลาร้า การห่มแบบนี้สำหรับเดินทางออกไปนอกวัด

第三种,覆通肩披法,这种披法包住了脖子,或者是覆盖了两侧肩膀,看不到肩膀,也看不到锁骨。这种披法适用于外出寺院。

การห่มทั้ง ๓ แบบ ชายจีวรต่ำกว่าชายสบงนิดหนึ่ง จะนุ่ง จะห่มผ้าได้สวย ต้องนุ่งสบงได้สวยก่อน ถ้านุ่งสบงไม่สวย จะห่มให้สวยยาก เพราะชายผ้าจีวรจะไม่พอดี

这三种披法,袈裟的下摆都要遮盖住下衣。如果袈裟要披得整齐、庄严,先要将下衣穿好。如果下衣没有穿好,就很难将袈裟披得整齐。

สำหรับพระบวชใหม่ การนุ่งห่มให้เรียบร้อยเป็นเรื่องที่ต้องฝึกกัน ควรจะเริ่มจากการพับเก็บเวลาเราจำวัดให้เรียบร้อย เวลาอยู่ในวัด ช่วงพักไม่ได้ห่มจีวร ก็ต้องพับพาดบนไหล่ขวาให้เรียบร้อย

对于新比丘,如果要圆整的披袈裟,一定要认真的练习。休息的时候,要将袈裟叠好;在寺院里,没有正式穿袈裟的时候,要将袈裟叠好,披在右肩上。

วิธีการที่สามารถทำให้พระภิกษุบวชใหม่นุ่งห่มจีวรได้เร็ว ไม่เสียเวลาในการทำกิจวัตรกิจกรรม  ก็คือ  พยายามพับผ้าและห่มผ้าให้เป็นภายใน ๑ วัน โดยเฉพาะการห่มดอง พอพับเสร็จก็ห่ม ห่มเสร็จก็แกะ ฝึกทั้งวัน อันนี้เป็นเทคนิคที่ทำให้แม้บวชใหม่ก็ห่มได้สวย ห่มได้เร็ว

让刚刚出家的比丘能够快速的披好袈裟,不影响到每日的行程,方法就是:练习在一天之内学会叠袈裟和披袈裟。尤其是袈裟的正式披法,叠好了就披,披好了就脱,整天如此练习。让新比丘能够快速、圆整的披袈裟。

 

เสขิยวัตร หมวดสารูป  ตอนที่ ๒  ข้อ ๓-๒๖

应学法之举止端庄 3-26

พระครูวินัยธรไพบูลย์  ธมฺมวิปุโล

        ข้อ ๓-๔ ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักปกปิดกายด้วยดี เดิน-นั่งไปในละแวกบ้าน

3-4. 我要整齐包好(袈裟),走、坐在住家区,应当学。

๑.ไป-นั่งในละแวกบ้าน ออกนอกวัด ต้องห่มคลุม

ยกเว้นพระธุดงค์หรือไปบิณฑบาตอบวัด

  1. 走、坐在住家区,外出寺院,要用覆通肩披法。除非是头陀行比丘,或者在寺院周围托钵。

๒.ข้างบนปิดหลุมคอ ข้างล่างต่ำกว่าสบงครึ่งหน้าแข้งนิดหนึ่ง

  1. 袈裟上面包住了脖子,下摆遮盖了下衣、一半多一点的小腿。

       ข้อ ๕-๖ “ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักสำรวมกายด้วยดี เดิน-นั่งไปในละแวกบ้าน

5-6. 我要好好守护威仪,走、坐在住家区,应当学。

๑. กิริยามารยาทสงบ ไม่คะนองมือ คะนองเท้า

  1. 举止端庄,没有摇摆手足;

๒.ไม่กระดิกมือ เคาะโต๊ะ เก้าอี้ กระดิกเท้า ตามจังหวะเพลง ไม่นั่งสั่นขา

  1. 没有随着音乐的节拍摆手,敲击桌子、椅子,抖脚,抖腿;

๓.หลีกเลี่ยงการนั่งไขว่ห้าง นั่งแบะขาในที่สาธารณะ

  1. 坐在公共场合时,不要翘二郎腿,不要张开双腿;
ข้อ ๗-๘ “ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักมีตามอง ทอดลงไปในบ้าน-นั่งในบ้าน”

7-8. 我要垂目而视,走、坐在住家区,应当学。

๑. ลักษณะสำรวมตา ไม่ลอกแลกเหมือนอาการของขโมย

  1. 收摄眼根,不像小偷那边东张西望;

๒.จะดู จะเหลียว ก็ให้เหลียวทั้งตัว อย่าหันเฉพาะหน้า ลอกแลก ไม่สง่างาม

  1. 想要看什么,就将身体全部转过去看;不要只转过脸去看,左顾右盼,不雅观。
ข้อ ๙-๑๐ “ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่เวิกผ้าไปในบ้าน-นั่งในบ้าน”

9-10. 我不要拉高(袈裟),走、坐在住家区,应当学。

๑.   ไม่ถกผ้าจีวรขึ้นพาดบ่า จนเห็นสีข้าง

1. 不将袈裟卷到肩上,会看到身体侧面;

๒.ไม่ถกสบงขึ้นเหนือหัวเข่า

2. 不将下衣卷到膝盖以上;

ข้อ ๑๑-๑๒ “ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่หัวเราะไปในบ้าน-นั่งในบ้าน”

11-12. 我不要大笑走、坐在住家区,应当学。

๑.   หมายถึง การหัวเราะแบบไม่ยั้ง

1. 指放肆大笑;

๒.ถ้าดีใจ ชอบใจ ก็ยิ้มๆ

2. 如果高兴,可以微笑;

๓.สร้างความรำคาญ เป็นอาการเผลอสติ ไม่สำรวม

3. 让人厌恶,没有正念。

ข้อ ๑๓-๑๔ “ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่พูดเสียงดังในบ้าน-นั่งในบ้าน”

13-14. 我要小声谈话,走、坐在住家区,应当学。

๑.   ไม่พูดเสียงดัง ไม่ตะโกน สร้างความรำคาญ เป็นอาการเผลอสติ ไม่สำรวม

1.    没有大声说话,没有大喊大叫,这样让人反感,没有正念。

ข้อ ๑๕-๑๖ “ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่โคลงกายไปในบ้าน-นั่งในบ้าน”

15-16. 我不要摇晃身体,走、坐在住家区,应当学。

๑.     ท่าเดินที่เหมาะสมครึ่งท่อนกายด้านบน ควรตั้งตรงนิ่ง ไม่คอตก ไหวกาย ซ้าย-ขวา หน้า-หลัง

1.    适合出家人的走路姿势,保持上半身正直、静止,没有低头,身体没有左右、前后晃动。

ข้อ ๑๗-๑๘ “ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่ไกวแขนไปในบ้านนั่งในบ้าน”

17-18. 我不要挥摆手臂,走、坐在住家区,应当学。

๑     แกว่งแขนจนเกินงามเป็นแบบนักเลง อ้าแขนแกว่ง เดินส่าย ปลายขาแบะ

1.    如同流氓一样摆动手臂,张开手臂,走路时大摇大摆;

๒     เดินบิดสะโพก แบบบัณเฑาะก์ หรือกะเทย

2.    如同变性人一样,走路时扭腰。

ข้อ ๑๙-๒๐ “ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่สั่นศีรษะไปในบ้าน-นั่งในบ้าน”

19-20. 我不摇头晃脑的走、坐在住家区,应当学。

๑. ถ้าพูดคุยจะต้องปฏิเสธ ก็ตอบโดยวาจา ไม่ควรสั่นศีรษะ

  1. 如果在交谈时,要拒绝对方,则可以口头拒绝,不要摇头;

๒. เวลาถูกเรียกหา อย่าเอี้ยวแต่คอ ให้หันไปทั้งตัว ทั้งซ้าย-ขวา

  1. 如果有人找,不要只转头回答,应该将整个身体向左或向右转动,再回答。

ข้อ ๒๑-๒๒ “ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจะไม่เอามือค้ำกายไปในบ้าน-นั่งในบ้าน

21-22. 我不要手叉腰,走、坐在住家区,应当学。

๑. มือค้ำกาย มือท้าวสะเอว เหมือนสาวประเภทสอง หรือแม่ค้าในตลาด

  1. 双手叉腰,如同市场的小贩,或者是男扮女装的人;

๒. ถ้าจำเป็นให้กำมือคว่ำแขน จะดูดีขึ้นแต่เท่าที่จำเป็น

  1. 如果有必要用手撑着头,也要尽量保持僧人的庄严;

๓. ไม่ควรนั่งเท้าแขน เท้าคาง หมดสง่าราศี ขนาดกายตัวเองศีรษะตัวเองยังตั้งเองไม่ได้ ต้องเอามือไปค้ำ แล้วจะไปแบกภาระอะไรได้

  1. 坐着时不应该用手撑着下巴,失去了僧人的威仪。自己的身体无法支撑,还需要用手去撑,又能担负什么责任呢?

ข้อ ๒๓-๒๔ “ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่เอาผ้าคลุมศีรษะไปในบ้าน-นั่งในบ้าน”

23-24. 我不要包着头,走、坐在住家区,应当学。

๑. เวลาแดดร้อน ๆ อย่าเอาผ้าเช็ดหน้าแปะไว้บนศีรษะ มันไม่งาม

  1. 被太阳晒,不要将手帕放在头上遮阳,不雅观;

๒.เอาผ้าจีวร พับแล้ววางไว้บนศีรษะ  ศีรษะเลยเป็นที่วางของมองไม่งาม

  1. 将叠好的袈裟放在头上,头不是放置袈裟的地方,看起来也不雅观。

ข้อ ๒๕ “ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่เดินกระโหย่งเท้าไปในบ้าน”

  1. 我不要踮着脚尖走在住家区,应当学。

๑. เดินเขย่งปลายเท้า พระภิกษุไม่ควรทำ เหมือนท่าขโมยตีนแมว

  1. 比丘不应踮着脚尖走路,如同小偷走路。

ข้อ ๒๖ “ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่นั่งรัดเข่าในบ้าน”

  1. 我不要抱住膝盖坐在住家区,应当学。

๑. นั่งชันเข่าขึ้นมาชิดอก กอดเข่าเจ่าจุก คอตก เข่าท่วมหัว เป็นอาการของคนเจ้าทุกข์ เป็นพระภิกษุนั่งกอดเข่าก็หมดสภาพ

  1. 蹲坐,两手抱膝,头垂下来,感觉非常痛苦;如果是比丘抱着膝盖,失去了出家人的威仪;

๒. ท่านั่งที่ไม่ควรนั่งในบ้านและที่สาธารณะ คือ นั่งยอง ๆ เหมือนนั่งขับถ่าย หนุ่มหล่อ สาวสวยนั่งท่านี้ก็หมดราคา พระนั่งท่านี้ก็หมดศรัทธา

  1. 在公共场合不应该有的坐姿,就是如同排便的蹲坐;帅哥美女蹲坐,不雅观;比丘蹲坐,居士失去信仰心;

๓. ถ้าจำเป็นก็นั่งบนส้นเท้า เอาเข่าข้างหนึ่งยันพื้นไว้จะดูสง่ากว่านั่งยอง ๆ

  1. 如果真的有必要,就跪坐,将臀部坐于脚后跟上,比蹲坐要优雅一些。