คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง
法身寺创办人:大宝优婆夷——詹‧孔诺雍老奶奶师父
คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง เกิดเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2452 เกิดในครอบครัวชาวนา ที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เป็นลูกคนที่ 5 ในจำนวนพี่น้อง 9 คน ของพ่อพลอย และแม่พัน คุณยายเป็นคนขยันและอดทน ช่วยพ่อแม่ดูแลงานบ้านและเป็นเรี่ยวแรงหลักในการทำนา
ความขยันขันแข็งของคุณยายนั้น เป็นที่ประจักษ์ชัดต่อสายตาของเพื่อนบ้านที่ทำนาในที่ติดกันอยู่ทุกคืนวัน เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะแข่งความขยันกับคุณยาย โดยไปที่นาให้เช้าขึ้น แต่ไม่ว่าเขาจะไปที่นาให้เช้ายิ่งขึ้นเพียงไหน ก็ไม่เคยไปถึงก่อนคุณยายเลยสักครั้งเดียว เขาจึงรู้สึกทึ่งและยอมรับในความขยันที่ผสมผสานด้วยความมุ่งมั่นแข็งแกร่งของคุณยายและได้ให้สมญานาม ยกย่องท่านว่า “แข้งเหล็ก” ซึ่งมีความหมายเฉพาะสำหรับผู้ให้สมญาคือ ขยันมาก ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยมานะ มีความอดทนที่หาใครเสมอเหมือนได้ยากยิ่ง
คุณยายมองเห็นชีวิตครองเรือนของพ่อแม่ที่อยู่ด้วยกัน ซึ่งมีทั้งสุขและทุกข์คลุกเคล้าปะปนกันตลอดมา เพราะพ่อเป็นคนติดเหล้า ต้องดื่มเหล้าวันละ ๑๐ สตางค์ทุกเย็น
วันหนึ่งเกิดเรื่องใหญ่ และเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคุณยาย วันนั้นพ่อเมาเหล้านอน อยู่บนแคร่ใต้ถุนบ้าน บ่นพึมพำไม่ยอมเลิก แม่อยู่ข้างบนบ้านคงจะรำคาญ จึงตะโกนลงไปด้วยถ้อยคำเหน็บแนมที่ใช้ได้ผล
ว่า “ไอ้นกกระจอกมาอาศัยรังเขาอยู่ บ่นอะไรพึมพำเชียว”
วันนั้นพ่อทนไม่ไหว เมื่อได้ยินแม่พูดเช่นนี้จึงถามลูกๆ ว่าพ่อเป็นนกกระจอกมาอาศัยรังแม่อยู่จริงไหม? แม่เขาด่าว่า อย่างนี้จริงไหม? น้ำเสียงของพ่อสร้างภาวะตึงเครียดให้กับลูกๆ จึงไม่มีใครกล้าตอบ นอกจากคุณยาย เพราะท่านไม่อยากให้พ่อแม่
ทะเลาะกัน และไม่ได้คิดว่าคำของแม่เป็นคำด่า จึงบอกพ่อไปว่า “แม่ไม่ได้ว่าพ่ออย่างนั้นหรอก” แต่ถ้อยคำแห่งความหวังดีนั้นกลับเป็นผลร้ายต่อท่าน เพราะพ่อหันมาโกรธคุณยายแทน และแช่งให้หูหนวก ๕00 ชาติ
คำแช่งของพ่อติดอยู่ในจิตใจอันละเอียดอ่อนของคุณยายนับแต่นั้นมา เพราะคุณยายรู้สึกว่าคำให้พรของพ่อแม่นั้นศักดิ์สิทธิ์ สามารถส่งผลดีจริงตามที่ท่านพูดได้ ส่วนคำสาปแช่งก็คงต้องศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน กลัวจะส่งผลร้ายจริงตามที่แช่ง
ไว้ คุณยายจึงตั้งใจว่า จะขออโหสิกรรมต่อพ่อในยามที่พ่อใกล้จะละโลกตามธรรมเนียมที่เคยเห็นมา แต่สุดท้ายคุณยายก็ไม่ทันได้ขออโหสิกรรมและสิ่งนี่คือสิ่งที่ติดอยู่ในใจคุณยาย เพราะท่านกลัวบาป จึงตั้งปณิธานที่จะตามหาพ่อในสัมปรายภพ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
__________________________________________________________________
1909年1月19日,詹‧孔诺雍老奶奶师父出生于佛统府那空猜习县的一个农民家庭。她在九个孩子中排名第五,父亲名叫培,母亲名叫潘。老奶奶为人勤劳踏实,不仅帮父母打理家务,还是家中务农的主要力量。
詹老奶奶的勤劳邻里乡亲有目共睹,他们想和奶奶比赛,看谁更早去到田里劳作,可无论他们去得有多早,都没有一次比奶奶早。他们对此惊叹不已,十分认可奶奶勤劳坚强的个性,于是给奶奶取了一个绰号“小钢腿”。奶奶被授予该称号有特别的意义,表明她非常勤奋耐劳、意志坚定。
詹老奶奶看见父母的生活既幸福也伴随着痛苦,因为父亲是一个酒鬼,每天晚上都会喝十毛钱的酒。
后来,发生了一件足以改变詹老奶奶一生的大事。有一天,父亲喝醉后躺在楼下的竹榻上反复说着醉话,在楼上的母亲很生气,便以嘲讽的口吻说:“麻雀正在另一个鸟窝里觅食”。
听到母亲的话,父亲忍无可忍便问孩子们:“我真的是只在别人窝里觅食的麻雀吗?真如她所说的那样吗”?父亲的语气吓到了孩子们,除了詹老奶奶没人敢应答。老奶奶不想让父母继续争吵,也不认为妈妈的话是骂人的话,便说道:“母亲不是那个意思”。但这句善意的话却适得其反,父亲顿时将愤怒转向老奶奶,诅咒道:“那就让你耳聋500世。”
从此,父亲的诅咒就深深地印在了老奶奶幼小的心灵里,因为她觉得父母的祝福神圣且灵验,而诅咒也同样十分神圣,害怕真的会灵验。于是,老奶奶想按当地风俗在父亲临终前请求宽恕。可惜后来老奶奶却来不及求得父亲的宽恕,这件事深深地扎在她的心底。因为老奶奶畏惧罪恶,所以从那天起便决心要去来世寻找父亲。
แสวงหาธรรม
เมื่อคุณยายอายุได้ 26 ปี ท่านได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ลาแม่และพี่น้อง
โดยมอบทรัพย์สมบัติ อันได้แก่ที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของท่านให้กับน้องสาวและพระน้องชาย อีกทั้งแก้วแหวนเงินทองทั้งหมดของท่าน ก็ถอดยกให้พี่น้องไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงปณิธานอันแน่วแน่ที่จะไปตามหาพ่อเท่านั้น
เมื่ออยู่กับญาติที่กรุงเทพฯคุณยายสืบทราบว่าคุณนายเลี้ยบ ชอบไปทำบุญถวายภัตตาหารที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นประจำ ท่านจึงไปสมัครทำงานบ้านให้กับบ้านนี้ แม้ว่าครอบครัวของท่านจะมีพอที่จะเลี้ยงตัวเองได้อย่างสบายๆ มีศักดิ์ศรีและเป็นที่ยอมรับของคนทั้งหมู่บ้าน แต่คุณยายกลับยอมที่จะเป็นคนทำงานบ้าน เพียงเพื่อได้โอกาสในการไปวัดปากน้ำ
ครอบครัวของคุณนายเลี้ยบเป็นตระกูลใหญ่ มีสมบัติมากมาย มีตึกแถวยาวเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรอยู่ทั้ง 2 ฝั่งถนน และมีกิจการทำธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าอยู่กับหลายประเทศที่สำคัญคุณนายเลี้ยบเป็นอุปัฏฐากสำคัญของวัดปากน้ำได้ทำบุญเลี้ยงพระเณรมาตลอดระยะเวลายาวนานถึง20 ปี จึงเป็นที่รู้จักดีของหลวงปู่วัดปากน้ำ พระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกาทั้งวัด
คุณยายเป็นคนชนบทเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ โดยที่ไม่รู้จักใคร การที่จะเข้าไปอยู่ในวัดวาอารามจำเป็นต้องมีผู้ใหญ่ฝากฝัง ท่านจึงตัดสินใจมาอยู่กับครอบครัวนี้
โดยปกติแล้ว คุณนายเลี้ยบเป็นคนเจ้าระเบียบ รักความสะอาด ไม่ว่าจะทำอะไรต้องประณีตเรียบร้อย สวยงาม
เมื่อคุณยายเข้าไปอยู่ในบ้านนี้ ท่านทำงานบ้านทุกอย่าง คิดว่าไปช่วยรักษาสมบัติของเขาที่มีอยู่นี้ไม่ให้เสื่อมสลาย แม้ท่านจะเติบใหญ่จากวิถีชีวิตชาวนา แต่ท่านก็สามารถจัดการดูแลทำงานบ้านทุกอย่างได้ละเอียดประณีตเป็นที่ถูกใจเจ้าของบ้าน
คุณยายนั้นเป็นคนขยันขันแข็ง อดทน มีระเบียบวินัย รักความสะอาด และซื่อตรง คุณนายเลี้ยบจึงไว้ใจมอบกุญแจห้องเก็บสมบัติไว้ให้คุณยายช่วยดูแลห้องเก็บสมบัตินี้เป็นเสมือนคลังของบ้าน แก้วแหวนเงินทองทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในกำปั่น ซึ่งอยู่ในห้องนี้ ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้แม้แต่ลูกหลาน นอกจากเจ้าของบ้านกับคุณยายที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลทำความสะอาดและคอยรักษาสมบัติเหล่านั้น เป็นความรับผิดชอบของคุณยายเท่านั้น เจ้าของบ้านจึงมั่นใจว่าหากมีท่านอยู่ เขาสามารถไปไหนมาไหน โดยไม่ต้องห่วงกังวล เพราะคุณยายทำหน้าที่ของท่านได้อย่างสมบูรณ์เจ้าของบ้านจึงทั้งรักและไว้วางใจ
求法之路
詹老奶奶26岁时毅然告别母亲和亲人,将名下土地赠与妹妹和出家的弟弟,连同金器首饰也全部赠与家人,只剩下寻找父亲的决心。
老奶奶在曼谷亲戚家寄宿时得知柳女士常去北榄寺斋僧,便决定进入柳女士家屈身为佣。备受邻里乡亲尊敬的老奶奶甘愿放弃优越的生活成为富贵人家的女佣,为的是希望借此机会前往北榄寺修行。
柳女士家境显赫,富甲一方,在道路两旁有延绵数公里的店面,还从事外贸生意。她是北榄寺重要的护法居士,供佛斋僧长达20余年,跟全寺比丘、沙弥、优婆塞和优婆夷都十分熟络。
老奶奶独自从农村来到曼谷,一个人也不认识,想进入北榄寺修行需有人引荐,所以她决定进入柳女士家中工作。柳女士是一个爱干净整洁的人,所以要求佣人做事也要细致、整洁、得体。
老奶奶进来工作后,一直尽心尽力打理家中的大小事务,包括管理家中的财富。虽然老奶奶成长于农村,却勤奋自律,把家里的一切事务打理得井井有条,很快就获得了柳女士的赏识。
由于老奶奶为人勤劳、忍耐、守纪、干净、诚实,所以柳女士十分信任老奶奶,将家中收藏现金和珠宝的房间钥匙交给老奶奶保管。平常这间收藏金银财宝的屋子,连家中的孩子都不能进入,只有柳女士和负责清洁与管理财产的老奶奶可以入内。老奶奶负责任的态度让柳女士能够安心处理生意上的事务,无需操心家里的事情。所以,老奶奶深得柳女士全家人的爱戴与信任。
โรงงานทำวิชชา
สถานที่ศึกษาวิชชาธรรมกายชั้นสูง เรียกว่า “โรงงานทำวิชชา” เป็นกุฏิหลังใหญ่
ตีเพิงออกไปสองข้าง ตรงกลางกุฏิมีผนังแบ่งเป็นสองห้อง แยกพระภิกษุ-สามเณร
กับอุบาสิกาไว้คนละส่วน มองไม่เห็นซึ่งกันและกัน พระเดชพระคุณหลวงปู่จะนั่งอยู่ทางด้านพระภิกษุ สามเณร ที่ผนังกั้นจะมีช่องเล็กๆ ไว้สำหรับพระเดชพระคุณหลวงปู่สั่งงานทางฝ่ายอุบาสิกา
การศึกษาวิชชาธรรมกาย ในยามปกติจะทำผลัดละ 4 ชั่วโมงต่อเนื่องกัน
ส่วนในยามศึกสงคราม จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 2 ผลัด ผลัดละ 6 ชั่วโมง
เป็นอย่างนี้ตลอด 24 ชั่วโมง
หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านคัดเลือกให้คุณยายเป็นหัวหน้าเวรดึก เพราะเห็นว่าคุณยายมีความตั้งใจจริงในการศึกษาวิชชาธรรมกาย มีญาณทัสสนะแม่นยำ มีความรับผิดชอบสูงและอีกประการหนึ่งก็คือ คุณยายเป็นคนแข็งแรง
มีข้อน่าสังเกตบางประการที่ทำให้ท่านได้รับการคัดเลือกให้เป็นหัวหน้าสิ่งนั้นก็คือการเอาจริงเอาจังและทำมากกว่าคนอื่น แม้ว่าคุณยายจะนั่งสมาธิเหมือนกับคนอื่น แต่ เวลานั่งท่านไม่ขยับเลย นั่งแบบทิ้งชีวิต จนขาดการรับรู้ทางกายไปรับรู้เอาวิชชาข้างใน เมื่อครบ 6 ชั่วโมงจะออกเวร คนที่นั่งมาด้วยกันลุกออกไปแล้ว แต่คุณยายท่านยังไม่ลุกท่าน อยู่รอฟังว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำจะสั่งวิชชาชุดที่เข้ามาผลัดว่าอย่างไร อย่างน้อยอีกครึ่งชั่วโมง บางครั้งก็ถึงชั่วโมง เมื่อรับรู้คำสั่งแล้ว คุณยายก็ทำควบคู่กับเขาไปด้วย หลังจากนั้น ท่านจึงออกจากห้องไป
เมื่อออกจากห้องไปแล้ว คุณยายก็ยังคงตรึกธรรมะ ไปเรื่อยๆ พร้อมกับการทำภารกิจส่วนตัว ภายนอกเคลื่อนไหว แต่ภายในหยุดนิ่งตลอดเวลา พอถึงเวลาเข้าเวร คนอื่นจะเข้า เมื่อถึงเวลา แต่สำหรับคุณยายแล้ว อย่างน้อยต้องเข้าไปก่อนสัก 15 นาที เพื่อที่จะได้ฟังในตอนท้ายชั่วโมงของชุดนั้นว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านอบรมอย่างไรบ้าง มีข้อผิดพลาดและ ข้อแก้ไขอย่างไร เมื่อรับรู้เรียบร้อยแล้ว ผู้ที่ทำวิชชาอยู่ใน ชุดเดียวกันจึงจะเข้ามา
ด้วยเหตุนี้ความรู้ที่หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านมี คุณยายจึงไม่ปล่อยให้ตกหล่น เริ่มต้นอย่างไร ลงท้ายอย่างไรส่งต่อกันอย่างไร คุณยายรู้หมดและทำได้หมด แม้ว่าท่านจะไม่รู้ หนังสือ อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ในขณะที่คนอื่นๆ อ่านหนังสือ ออกกันทุกคน แต่ท่านได้นำคำตอบจากความรู้แจ้งเห็นแจ้ง อย่างแท้จริงภายในของท่าน ซึ่งเกิดจากการทำความเพียร มาตอบหลวงพ่อวัดปากน้ำ จนกระทั่งหลวงพ่อท่านพอใจแล้ว คัดเลือกให้เป็นหัวหน้าเวร
深修工厂
深修工厂是专门修习法身法门的场所,是一座向两侧延伸的大型棚屋,中间由一堵厚墙隔开,一边是比丘和沙弥,另一边是优婆夷,彼此看不见对方。祖师坐在出家人这一边,透过隔墙上的小孔向优婆夷那边传达指示。
修习法身法门采取全天二十四小时轮班制,在和平时期每四个小时一班。第二次世界大战期间,分为两组,每组两班,每班六个小时。
后来,祖师选择詹老奶奶担任夜班的组长,因为她在修习法身法门时一丝不苟,智见精准,责任心强。此外,另一个原因是老奶奶的身体非常健康。
老奶奶被选为组长绝非偶然,而是因为她比别人更加认真精进。虽然老奶奶像其他人也是在打坐,但她坐下来后纹丝不动,把一切抛之脑后,忘掉身体的知觉,只专注于内在的修行。六个小时后到了换班的时间,原本坐在一起的人已经起身离开,但老奶奶却选择继续逗留半个小时至一个小时,聆听祖师对下一组的指示。之后,她还跟随下一组打坐一会儿才起身离开。
老奶奶离开禅堂后,一边处理日常事务,一边心系佛法,外部在不停运动,内部却心如止水。到了换班时间,别人都是等到最后一刻才进入禅堂,老奶奶却会提前十五分钟,因为她想聆听祖师对即将离开那组的总结,希望能从中学到更多知识。随后,同组的深修者才陆续进入禅堂修习法身法门。
因此,老奶奶很珍惜祖师传授的知识,清楚地了解每一组深修者是如何开始和结束以及交接的过程。老奶奶不仅了解而且十分精通,虽然她一字不识,在读书识字这方面有别于他人,但她却能透过精进修行生起的内在真实智慧回答祖师的问题,从而得到祖师的称赞与认可,最终被选为组长。
รอผู้สืบทอดวิชชาธรรมกาย
หลังจากหลวงพ่อวัดปากน้ำ (หลวงปู่สด จันทสโร )มรณภาพไปแล้ว คุณยายก็ไม่ได้ทิ้งเจตนารมณ์ในอันที่จะถ่ายทอดวิชชาธรรมกายไปสู่ชาวโลกแม้จะรู้ตัวว่าไม่รู้หนังสือเลยจะไปสอนใครได้แต่ในความเชื่อมั่นในธรรมะของพระพุทธองค์คุณยายไม่ย่อท้อได้มั่นฝึกฝน ตนเองและรับหน้าที่เผยแผ่วิชาธรรมกายเรื่อยมา มีลูกศิษย์ผู้ใฝ่ธรรมขอเข้ารับการศึกษาจากท่านจำนวนมากในที่นี้รวมถึง นักเรียนไชยบูลย์ สุทธิผล (หลวงพ่อธัมมชโย) จากโรงเรียนสวนกุหลาบ ในเวลาต่อมาก็พา รุ่นพี่ รุ่นเพื่อน รุ่นน้อง มาฝากตัวเป็นศิษย์มากมาย ทำให้บ้านธรรมประสิทธิ์ที่ใช้ฝึกปฏิบัติธรรมในวัดปากน้ำคับแคบลงถนัดใจ
静候法身法门的传承人
北榄寺祖师圆寂后,詹老奶奶并没有放弃向世人弘扬法身法门的志愿。虽然老奶奶一字不识,也从未正式教导过他人,但她坚信佛法,从未气馁,继续精进修行和弘扬法身法门。许多德行高尚的弟子都慕名前来跟随老奶奶修行,其中就包括来自玫瑰园中学的差雅朴·苏惕婆(法胜师父俗名)。后来,他又带许多同学和朋友来拜师,使得坐落在北榄寺内的佛法成就之家变得越来越窄。
พบครูผู้ชี้หนทางสันติสุข
เมื่อพบกับคุณยายครั้งแรก ขณะนั้นคุณยายอาจารย์อายุได้ 53 ปี มองภายนอกเป็นเพียงแม่ชีธรรมดาคนหนึ่ง ที่มีรูปร่างผอมบาง เนื้อตัวสะพรั่งไปด้วยเส้นเอ็น หากแต่แววตานั้นสุกใส สะท้อนความเป็นผู้ทรงภูมิธรรมอันสูงยิ่ง บุคลิกของท่านมีความหนักแน่นเข้มแข็งมีพลัง และเปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา แม้ว่าท่านจะไม่เคยเรียนหนังสือ ทั้งยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ แต่กลับสามารถตอบปัญหาธรรมะอันลึกซึ้งได้อย่างกระจ่างแจ้ง ทำให้ผู้ที่มาถามไถ่รู้สึกว่า คำตอบนั้นได้ทำความสว่างให้เกิดขึ้นในจิตใจ หยุดให้ได้คิด ฉุดให้หลุดออกมาจากแรงดึงดูดของกระแสโลกที่เชี่ยวกราก ในวันแรกพบนั้นเอง ท่านรู้สึกได้ทันทีว่า ได้พบครูบาอาจารย์ที่แสวงหามาแสนนาน จึงขอฝากตัวเป็นศิษย์ของท่านด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งคุณยายอาจารย์ ได้ทักท่านราวกับรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าว่า “คุณน่ะ หลวงพ่อวัดปากน้ำให้ยายไปตามมาเกิดในสมัยสงครามโลก” ท่านฟังประโยคนี้แล้วก็ไม่เข้าใจ แต่สิ่งที่คุณยายอาจารย์พูดได้อย่างถูกต้องก็คือ ท่านเกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จริงๆ คุณยายอาจารย์ สามารถตอบทุกคำถามที่ท่านเคยสงสัยได้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจน และยังก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ ที่จะนำสันติสุขอันเกิดจากคำสอนในพระพุทธศาสนาไปเผยแผ่ทั่วโลก ทำให้ความใฝ่ฝันอันยิ่งใหญ่ในวัยเยาว์กลายเป็นจริงได้ในที่สุด
ในวันแรกของการฝึกสมาธิ(Meditation)กับคุณยายอาจารย์ ศิษย์คนใหม่ก็ได้ถามคำถามว่า “นรกสวรรค์มีจริงไหมครับ” คุณยายก็ตอบเรียบๆ “มีจริงคุณ นรกสวรรค์มีจริง ยายไปมาแล้ว ยายไปช่วยพ่อยาย พ่อยายตกนรกเพราะว่าดื่มเหล้า วันละ 10 สตางค์ ยายก็เข้าองค์พระไปช่วยท่านขึ้นมาได้ไปอยู่สวรรค์แล้ว คุณอยากจะไปไหมล่ะ ยายจะสอนให้ แล้วไปด้วยกัน”
คำตอบของคุณยาย แตกต่างจากทุกคำตอบที่เคยได้ฟัง แสดงให้เห็นว่าท่านต้องไปรู้ไปเห็นด้วยตนเอง จึงสามารถตอบเช่นนี้ได้ แต่เรื่องการไปนรกสวรรค์มิใช่เรื่องยากอะไรสำหรับคุณยายเลย เพราะในสมัยที่หลวงปู่วัดปากน้ำยังมีชีวิตอยู่ คุณยายได้เข้าไปนั่งสมาธิในโรงงานทำวิชชาร่วมกับแม่ชี และพระภิกษุ ที่หลวงปู่วัดปากน้ำคัดเลือกแล้วว่า เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในสมาธิ ในยุคนั้น
初见恩师
第一次法胜师父相遇詹老奶奶时,老奶奶已经53岁,从外表上看只是一个普通的八戒女,身材瘦小却精神饱满,眼睛炯炯有神,那是智者的象征。老奶奶个性坚强且充满慈悲,虽然没有上过学,不懂读书识字,却能言简意赅地回答深奥的佛法问题,让请教者深受启发,茅塞顿开。初次见面,法胜师父便认定老奶奶就是自己苦苦寻找的明师,立志要成为她的座下弟子。老奶奶好像事先知道了这一切,对法胜师父说:“你就是北榄寺祖师让我在二战时期寻来的传人。”当时,法胜师父不太明白这句话的意思,但老奶奶说得对,他的确是生于二战期间。老奶奶不仅能清晰明了地解答法胜师父所有的疑惑,还激励师父将缔造和平的佛教教义弘扬到全世界,实现年少时心怀的伟大梦想。
第一天跟老奶奶学习打坐,法胜师父就问:“地狱和天界真的存在吗?”老奶奶答道:“是的,地狱和天界真实存在,我曾去过那里救助自己的父亲。父亲生前每天都喝十撒丹的酒,往生后堕入地狱。我透过修行证入法身助他成功去往天界。你想去吗?我可以教你,然后我们一起去。”
老奶奶的答案有别于法胜师父此前听过的所有答案,说明老奶奶亲自证明过才回答得如此笃定。对老奶奶来说去地狱或天界一点也不难,因为祖师还健在时曾经严格筛选一批精通禅定的比丘和八戒女进入深修工厂修习法身法门。
หลวงพ่อธัมมชโยบวชอุทิศชีวิต
คุณยายท่านได้กำหนดไว้ว่า เมื่อหลวงพ่อมีความรู้ทางโลกแล้ว ก็พร้อมที่จะ
อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ผู้เปี่ยมไปด้วยสติปัญญาและมีจิตใจที่เข้มแข็งเป็นผู้นำในการเผยแผ่วิชชาธรรมกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้กว้างไกลต่อไปได้ จึงได้มีการปรึกษาหารือกันว่า หลวงพ่อธัมมชโยควรจะบวชในพรรษานี้ เมื่อหลวงพ่อตกลงใจที่จะบวช คุณยายก็ปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นความภาคภูมิใจสมกับที่ได้ทุ่มเททั้งหมดของชีวิตเพื่อวิชชาธรรมกาย และท่านได้บวชในวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2512 ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9 จึงเป็นวันที่หลวงพ่อ มีฉายาว่า “ธัมมชโย” แปลว่า “ผู้มีชัยชนะด้วยธรรมกาย”
การบวชครั้งนี้เป็นการบวชอุทิศชีวิตให้กับพระพุทธศาสนา ด้วยมโนปณิธานที่จะเผยแผ่วิชชาธรรมกายไปทั่วโลก เป็นภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ที่รอคอยท่านสืบสานให้สำเร็จลุล่วงในภายหน้าต่อไป
法胜师父立愿终生出家
詹老奶奶曾告知法胜师父必须先精通世俗知识才可以出家为僧,具足智慧和坚定的意志,成为弘扬佛陀教义的领袖。后来,法胜师父决定在大学毕业的同年雨安居出家,将自己的一生奉献给佛教,老奶奶得知后法喜充满。最终,法胜师父于1969年8月27日,农历九月的月圆日出家受戒,法号“法胜”,意为“以法得胜”。
法胜师父将一生奉献给佛教,立愿将法身法门弘扬到全世界。这是一项伟大的使命,在未来等待法胜师父去实现。
หลวงพ่อทัตตชีโวบวชอุทิศชีวิต
เมื่อหลวงพ่อทัตตะมาพบคุณยาย และได้พบเพื่อนผู้ปฏิบัติธรรมที่บ้านธรรมประสิทธิ์ ความเป็นอยู่ของที่นี่มีแต่ความอบอุ่น และคุณยายเป็นศูนย์กลางความรู้สึกนึกคิดของท่านทั้งหมด เหมือนเป็นทั้งพ่อทั้งแม่รวมกัน ท่านมีความสุขที่สามารถซักถามคุณยายได้ทุกอย่าง ทุกข์สุขอย่างไรคุณยายรู้หมดโดยไม่ต้องบอกต้องถามทั้งยังมีเพื่อนผู้ปฏิบัติธรรม สามารถสนทนาธรรมกันได้อย่างสนุกสนานเหมือนพี่เหมือนน้อง ทำให้มีความรู้สึกว่า นี่คือครอบครัวที่แท้จริงของท่าน
วันหนึ่งคุณยายเป็นห่วงท่านกลัวว่าจะสร้างบารมีไปไม่ตลอดรอดฝั่ง จึงเรียกมาตักเตือน
“คุณอยู่ทางโลกไม่ได้หรอกนะ เพราะคุณเป็นคนใจกว้าง มีสมบัติอะไรคุณก็ให้เขาหมดขืนมีครอบครัวก็จะลำบาก คุณเกิดมาเพื่อสร้างบารมีเท่านั้น บวชเสีย แล้วจะประสบความสำเร็จทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการ วิชาในพระไตรปิฎกคุณมีสิทธิ์จะรู้จะเห็นจริง” หลวงพ่อทัตตชีโวได้ฟังคำตักเตือนของคุณยาย ท่านก็พิจารณาว่า ตลอดระยะเวลาที่ท่านคิดว่าตนเองเป็นผู้รอบรู้สารพัดนั้น แท้ที่จริงแล้วท่านไม่เคยรู้จักตัวเองเลย ต้องให้คุณยายมาคอยชี้แนะว่าตัวท่านไม่เหมาะกับชีวิตทางโลกอย่างไรและควรจะทำอย่างไรต่อไป ถึงเวลาแล้วที่ท่านควรจะบวช และหลวงพ่อทัตตชีโวได้ตัดสินใจอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2514
施命师父立愿终生出家
施命师父遇见詹老奶奶,在佛法成就之家结识了一群热爱修行的同修后,感觉这里的生活十分温馨。老奶奶在施命师父心目中的重要性不言而喻,就像再生父母。他很开心能够向老奶奶请教各种问题,而老奶奶也会将所知的一切倾囊相授。此外,他还有一群志同道合的同修像兄弟姐妹一样一起交流佛法,感觉他们就是真正的家人。
有一天,老奶奶担心施命师父修波罗蜜的信心不够坚定,便提醒他:“你不适合世俗的生活,因为你过于慷慨,有什么东西都可以给人家,有了家庭后会过得很艰难。你生来是为了修波罗蜜,不如出家成就人生目标。你有如实知见《三藏经》中一切知识的潜质。”施命师父听完老奶奶的话后就自我省思:一直以来,以为自己无所不知,可事实上自己根本不了解自己,需要老奶奶提醒才知道自己并不适合世俗的生活,由此也明白了今后的路应该怎么走。后来,施命师父于1971年12月19日在北榄寺出家受戒。
พลิกทุ่งนา ฟ้าโล่ง สู่บุญสถานอันศักดิ์สิทธิ์
หลังจากที่บ้านธรรมประสิทธิ์มีพื้นที่ไม่เพียงพอ สำหรับคนที่เข้ามานั่งสมาธิปฏิบัติธรรมกับคุณยายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คุณยายจึงดำริที่จะสร้างวัดขึ้น ท่านคิดว่าจะใช้พื้นที่ประมาณ 50 ไร่ เพื่อรองรับผู้ที่จะมาปฏิบัติธรรม เผยแผ่วิชชาธรรมกายไปทั่วโลก จึงให้คนไปติดต่อขอซื้อที่ดิน 50 ไร่ เเต่เขายกที่ดินให้หมดผืนเลยจำนวน 196ไร่ 9 ตารางวา เป็นผืนเปล่าๆ ไม่มีอะไรเลย มีแต่ทุ่งนา ที่โล่งๆ ณ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
คุณยายท่านเป็นยอดนักบริหาร ก่อนที่จะเริ่มงานสร้างวัด ท่านเรียกประชุมลูกศิษย์ทุกคนเพื่อชี้แจงสิ่งต่างๆ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการสร้างวัด
“เราจะช่วยกันสร้างวัด แล้ววัดที่จะสร้างก็เป็นวัดใหญ่ เนื้อที่มาก เมื่อจะสร้างทั้งที ยังไงๆ เราก็จะพยายามสร้างให้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ เราจะต้องขัดแย้งกันแน่ ให้พวกเราถามตัวเองดูนะ ใครคิดว่าต่อไปข้างหน้า ถ้าเถียงกันแล้ว ทะเลาะกันแล้วอดที่จะโกรธกันไม่ได้ ให้ถอยออกไปนั่งข้างหลัง ถ้าใครคิดว่าขัดแย้งกันแล้ว เถียงกันแล้วจะไม่โกรธกัน ก็ขยับขึ้นมานั่งใกล้ยาย”
开垦荒田创建神圣道场
当佛法成就之家无法容纳日益增多的弟子后,詹老奶奶下定决心建立一座新寺院。为了能够容纳更多修行的人,以及将法身法门弘扬到全世界,老奶奶原先只想买大约50泰亩的土地用于建寺,于是让人联系求购土地,可功德主却发心供养了196泰亩土地。当时那片土地是一片广扩的荒田,位于巴吞他尼府空銮县。
老奶奶是一位非常优秀的管理者,为了避免在建寺过程中发生冲突,她在破土动工前召集全体成员一起开会。会上她说:“我们齐心协力一起建造寺院,要建一座很大的寺院,既然建了就尽力做到最好。因此,大家在一起工作时难免会因意见不合而发生争论,你们先扪心自问,如果以后谁发生争论后会心生怨气,就退一步坐在后面,如果谁在争论后不会心生怨气,就来老奶奶的旁边坐。”
ขุดดินก้อนแรก
การขุดดินก้อนแรกในการก่อสร้างวัด เริ่มในวันมาฆบูชา ตรงกับวันที่ 20กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2513 คุณยายเป็นผู้วางแบบแผนในหลายเรื่อง โดยมีหลวงพ่อธัมมชโยรับเป็นธุระเรื่องการก่อสร้างทุกสิ่งทุกอย่าง คุณยายจะคอยดูแลให้กำลังใจลูกศิษย์ทุกคน เพราะงานสร้างวัดเป็นงานใหญ่ ต้องอาศัยกำลังใจอย่างมาก ซึ่งกองทุนที่เริ่มสร้างวัดมีเพียง 3,200 บาท และที่ดินอันเป็นสถานที่สร้างวัดนั้นก็ยังเป็นเพียงทุ่งนาฟ้าโล่ง พื้นดินแยกแตกระแหง มองไปทางไหนก็มีแต่ความว่างเปล่าสุดตา
ในระหว่างที่ดำเนินการขุดดินอยู่นั้น เกิดภาวะเงินฝืดขึ้นมากลางคัน ซึ่งกำหนดจะต้องนำไปจ่ายค่าแรงงานในวันรุ่งขึ้น แต่เงินที่มีไม่เพียงพอ จึงทำให้หลวงพ่อทัตตชีโวกระวนกระวายใจอย่างหนัก คุณยายเห็นดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า“ไปนั่งสมาธิก่อนเถอะ เดี๋ยวยายจะตามสมบัติมาให้”
วันนั้นคุณยายนำนั่งสมาธินานเป็นพิเศษ ตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึง 3 ทุ่ม พอเลิก
หลวงพ่อทัตตชีโวก็รำพึงว่า “ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีเงินค่าแรงคนงานเป็นค่าจ้างขุดคันคู คงเกิดเรื่องแน่” คุณยายก็คงยืนยันว่า ท่านเห็นในสมาธิว่าได้เงินมาแล้ว หลวงพ่อทัตตชีโวไม่รู้จะทำอย่างไร จึงลาคุณยายกลับ และนัดว่าพรุ่งนี้จะมารับเงิน พอเปิดประตูจะออกไปก็พบผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ที่บันไดหน้าบ้าน เมื่อซักถามกันแล้ว ได้ความว่า พ่อของเขาสั่งไว้ก่อนตายว่า ให้นำเงินมาทำบุญที่นี่ 3 หมื่นบาท เขามารออยู่ตั้งแต่ 1 ทุ่ม แต่เข้ามาไม่ได้ เพราะทุกคนปิดประตู ขึ้นไปนั่งสมาธิกันหมด
ญาณทัสสนะของคุณยายแม่นยำมาก ภายนอกภายในตรงกันไม่คลาดเคลื่อนเลย เงินที่คุณยายเห็นปรากฏในสมาธิและนอกสมาธินั้น เป็นจริงตามแรงอธิษฐานจิตทุกประการ
破土动工
1970年2月20日万佛节当天开始破土动工兴建寺院。詹老奶奶作为策划者制定各项工作计划,法胜师父则主要负责施工的事宜。老奶奶会经常鼓励大家,因为建造寺院是一项浩大的工程,需要无穷的信心。当时建寺的启动资金仅有3200泰铢,土地还只是一片广袤的荒田,地面干枯多裂,放眼望去一片荒芜。
在施工挖掘水道的过程中突然出现资金短缺,施命师父发现账上的余额已不够支付工人的工资,并为此心急如焚,老奶奶见后却平静地说:“你先去打坐,我来筹集善款。”
那天,老奶奶带领团队打坐的时间特别长,从下午六点到晚上九点。结束后施命师父跟老奶奶说:“如果明天没有钱支付工人的工资,肯定会发生预想不到的事情。”老奶奶却笃定说:“我已在定中看见会有人来供养善款。”施命师父半信半疑又不知道怎么办,只好向老奶奶道别,并说明早会来拿钱。就在他开门要离开时,看见一个男子坐在房子前的台阶上。经一番询问才得知该男子受父亲临终所托,拿三万块钱来这里供养。他七点钟就到了,只是进不去,因为大家都关门在屋里打坐。
詹老奶奶的知见准确无误,内外一致,没有半点偏离。老奶奶在定中看见的钱,果真出现在现实中。
คุณยายพรวนดินไป ระลึกชาติไป
วันหนึ่งในระหว่างนั้น ประมาณ 3-4 โมงเย็น หลวงพ่อทัตตชีโวเดินผ่านมาที่กุฏิของคุณยาย มองไปเห็นท่านกำลังพรวนดินให้ต้นไม้รอบๆ กุฏิ จึงเดินเข้าไปยืนอยู่ห่างๆ ทางด้านหลัง ประมาณ 4-5 นาที คุณยายก็เหลียวหน้ามา หลวงพ่อทัตตชีโวจึงทักว่า
“ยาย…ยายอายุมากแล้ว พรวนดินต้นไม้มากมายอย่างนี้ไม่เหนื่อยหรือ”
“ไม่เหนื่อยหรอกท่าน ทำไปก็ตรึกไปเรื่อยๆ มันก็เลยไม่เหนื่อย”
“ยายตรึกเรื่องอะไร”
“ยายพรวนดินไปก็มองเข้าศูนย์กลางกายไป เข้าไปกลางพระธรรมกาย ระลึกชาติไปดูว่า
พระพุทธเจ้าในอดีตแต่ละพระองค์ที่ผ่านมา ท่านสร้างบารมีของท่านอย่างไร แล้วยายก็เอาเป็นแบบอย่างว่า เรายังมีข้อบกพร่องที่ห่างจากพระพุทธเจ้าอย่างไรบ้าง จะได้ปรับปรุงตัวให้ยิ่งๆ ขึ้นไป”
詹老奶奶边松土边忆念过去世
有一天,下午三四点钟左右,施命师父经过詹老奶奶的寮房时看见她正在附近的一棵树下松土。施命师父走过去站在身后大约四五分钟,老奶奶才转过头来。施命师父问:
“老奶奶,您年纪大了,还为那么多树松土,不累吗?”
“不累,我一边工作一边忆念,所以不会累。”
“您忆念什么?”
“我一边松土,一边观想法身内的中心处,忆念诸佛过去世如何修波罗蜜,然后检讨自己的缺点,进而不断提升自己。”
คุณยายเป็นประธานกฐิน
เช้าวันหนึ่ง ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2530 ขณะที่หลวงพ่อธัมมชโยกำลังฉันเช้าอยู่ คุณยายก็เดินประนมมืออย่างนอบน้อมเข้าไปหาหลวงพ่อ
” ยายคิดมาสองสามปีแล้ว ยายอยากจะทอดกฐินสักครั้งหนึ่ง เพราะปีนี้ยาย
จะ 80 แล้ว มันก็คงครั้งเดียวในชีวิต ยายคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว ขอให้ยายเป็นประธานกฐินเถอะ”หลวงพ่อเห็นคุณยายมาประนมมือขอเช่นนั้น ท่านก็รู้สึกตื้นตันใจ จึงตอบว่า “ยาย เอาเลย ดีใจ จริงๆ ยายจะได้เป็นประธานกฐิน” คุณยายดีใจมาก แต่อยู่มาไม่กี่วันคุณยายท่านก็มาขอคืน ครั้นหลวงพ่อถามเหตุผล
ท่านก็ว่า “ไม่ได้หรอก ให้คนอื่นเขาเป็นดีกว่า ยายเป็นคนในวัด มันผิดกฎเกณฑ์” เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้ที่เป็นประธานกฐินจะมีแต่ญาติโยม สาธุชนที่มาวัดเท่านั้น
หลวงพ่อจึงบอกท่านว่า “โธ่เอ๋ย…. ยายเป็นผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกายนะ ยายเป็นประธานใครๆ ก็ดีใจ ลูกหลานยายก็จะดีใจ ยายเป็นประธานกฐินเถอะ ทุกคนดีใจ” คุณยายท่านก็สาธุ
ตั้งแต่นั้นมา คุณยายก็เริ่มบอกบุญกฐิน ท่านชวนอุบาสกให้ขับรถพาขึ้นเหนือล่องใต้ไปตามจังหวัดต่างๆ เยี่ยมคนเก่าคนแก่ ลูกศิษย์ของท่านทุกคน ท่านเจอใครก็ชวนเขาทำบุญ การทำบุญกับคุณยายมีอานิสงส์มาก เพราะท่านเข้าถึงธรรมกายละเอียด ซ้อนกันอยู่ในกลางกายนับจำนวนไม่ถ้วน ดังนั้นการทำบุญร่วมกับท่านจึงเหมือนทำบุญร่วมกับพระธรรมกายที่นับจำนวนพระองค์ไม่ถ้วนทีเดียว
ปีต่อมาในวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2531 คุณยายได้เป็นประธานทอดกฐินสมดังความปรารถนาของท่าน งานนี้มีสาธุชนมาร่วมบุญกันอย่างคับคั่ง และทุกคนก็มีความอิ่มเอิบเบิกบานใจ ปีติในบุญกันอย่างเต็มที่
詹老奶奶当功德衣法会的大功德主
在1987年11月的一个早上,当法胜师父在吃早餐时, 詹老奶奶前来参拜他。她说:“法师!我有一件事情放在心 里,已经有两,三年了。我想当功德衣法会的主席。现在我 已经八十岁了,这也许是我最后的机会了。请法师让我当 功德衣法会的主席。”看到老奶奶谦卑的态度与心意,住持 说:“您就去做吧!我替您高兴,您可以担任1988年的功德 衣法会主席。” 可是几天过后,詹老奶奶却告诉住持她不能胜任。
詹老奶奶解释说:“这是不合乎规矩的。通常功德衣法会的主席是由寺外的在家居士担任。”在那时候,功德衣法会的主席确实是由寺外的在家居士担任的。
法胜师父说:“您是这寺院的创办人,如果您来当功 德衣法会的主席,每个人都会很高兴。您尽管放心去当功德 衣法会的主席。这样大家都会替您高兴!”也因为这样,老奶奶才答应,同时响应道:“善哉!”
从那时候开始,老奶奶每到一处,就鼓励其他的人与她一 起参与供养功德衣法会。她吩咐侍者载她到泰国最北部,以及最南部的各府去拜访所有的老弟子,鼓励他们参加功德衣法会。每个人都被她感动了,答应与她一起供养功德衣,因为他们都知道,老奶奶在佛法上有很高的成就,而此次的功德衣法会是很殊胜的。
因此,在1988年11月6日,詹老奶奶主持寺院里的功德衣法会。那天,寺院里来了许多信众,人山人海,挤得水泄不通。大家都感到法喜充满。