คุณยายทำนายฝันของหลวงพ่อ
ความฝันบอกเหตุ
梦中的预兆
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ว่า ความฝันของคนเราเกิดขึ้นได้เพราะเหตุ 4 ประการ คือ ธาตุวิปริต จิตนิวรณ์ เทพสังหรณ์ และบุพพนิมิตจากบุญและบาป บางครั้งเราไม่อาจทราบได้แน่ชัดว่าความฝันนั้นเกิดเพราะเหตุใดและหมายถึงอะไร การทำนายความฝันจึงเป็นวิธีหนึ่งซึ่งนิยมกระทำกัน ถ้าหากผู้ทำนายฝันนั้นเป็นผู้รู้แจ้งแทงตลอดในธรรม ย่อมสามารถทำนายได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ตรงไปตามความเป็นจริง ยกตัวอย่างเช่น ครั้งที่พระเจ้า-ปเสนทิโกศลทรงพระสุบิน (ฝัน) แปลกประหลาด ท่านได้เข้าหาผู้รู้ คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อกราบทูลให้พระองค์ทำนายความฝันให้ ซึ่งพระองค์ก็ทรงอนุเคราะห์ให้ตามปรารถนา
佛陀教诲说:“人做梦的缘故有四,分别为:四大不调,先时所见,天人示梦,宿业现相。”有时候我们可能不清楚梦境产生的原因,以及征兆所代表的意思,致使解梦成为了一种非常受欢迎的活动。如果解梦者对佛法认识透彻,将有助于在解梦时,如实准确地做出预测。
ในช่วงที่เป็นนักศึกษาและเรียนธรรมะอยู่กับคุณยาย หลวงพ่อเคยมีความฝันแปลกประหลาดที่ยังจำติดตาได้จนถึงทุกวันนี้ ตามปกติเมื่อหลับแล้วหลวงพ่อมักจะไม่ฝัน แต่วันหนึ่ง หลังจากนั่งสมาธิเสร็จแล้วเข้านอน หลวงพ่อฝันไปว่าเห็นถนนเส้นหนึ่งซึ่งยาวไกลมาก ไม่รู้ว่าสิ้นสุดที่ไหน ปลายถนนอันไกลลิบนั้นมีความสว่างเจิดจ้าปรากฏอยู่ แล้วหลวงพ่อก็เห็นพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำมายืนลอยๆ อยู่ด้านซ้ายมือ ท่านเรียกชื่อเดิมสมัยเป็นคฤหัสถ์ของหลวงพ่อแล้วบอกให้เดินไปบนถนน หลวงพ่อจึงออกเดินตามที่ท่านสั่ง แล้วก็พบว่าถนนสายนั้นเต็มไปด้วยเศษแก้วแตกปูเรียงแน่นไปหมดตลอดทั้งสาย หลวงปู่กำชับให้หลวงพ่อเดินไปเรื่อยๆ ด้วยความเคารพเทิดทูนที่มีต่อท่าน หลวงพ่อจึงก้าวเดินออกไปด้วยเท้าเปล่า รู้สึกราวกับว่าเดินไปบนลูกรังซึ่งมีคมกดเข้าไปในฝ่าเท้า แต่ไม่สามารถทิ่มตำทะลุผิวหนังเข้าไปได้ หลวงปู่คอยให้กำลังใจหลวงพ่ออยู่ข้างๆ บอกว่าให้เดินไปเรื่อยๆ หลวงพ่อจำต้องเดินกระย่องกระแย่งไปจนถึงปลายทาง
在随奶奶学习佛法的初期,师父曾做了一个奇异的梦,梦境至今依然历历在目。一般情况下,师父很少做梦,但是有一天,师父如往常一样打坐后入睡,却突然梦到一条望不到尽头的路,路上散发着灿烂的亮光,北榄寺祖师当时就站在师父的右侧,叫唤着师父的俗家名字,叮嘱师父继续往那条路前行。
正当师父准备迈开步伐时,却看见眼前是一条布满碎玻璃的道路,但身旁的祖师却鼓励师父继续前行。师父对祖师心怀敬仰,决定就算光着脚丫也要勇往直前。那感觉好像行走在棱角锐利的砾石上,虽然脚掌被刺痛,却没有刺穿脚底。祖师伴在身旁,激励着师父要坚定地走下去,而师父也立愿要走到路的尽头。 เมื่อเดินไปจนสุดทางแล้ว หลวงพ่อได้พบกับชายหาดที่ลาดลงสู่ทะเลกว้างใหญ่มองไม่เห็นฝั่ง หลวงปู่สั่งให้เดินต่อไปอีก หลวงพ่อจึงเดินฝ่าชายหาดอันร้อนระอุจนไปถึงริมทะเล เมื่อก้าวลงไปในน้ำ ปรากฏว่าเท้าไม่จมลงไป แต่สามารถเดินอยู่บนผิวน้ำได้ หลวงพ่อจึงเดินต่อไปโดยมีหลวงปู่เดินลอยๆ อยู่เคียงข้าง คอยกำชับให้มุ่งหน้าเดินต่อไปเรื่อยๆ หลวงพ่อเดินไปไกลจนถึงที่แห่งหนึ่งกลางทะเล หลวงปู่บอกหลวงพ่อว่า “ตรงนี้เป็นกลางทะเล หยุดอยู่ตรงนี้ แล้วปักหลักลงไป” หลวงพ่อฟังแล้วก็นึกในใจ ว่าจะเอาหลักมาจากไหน พอนึกว่าจะปักหลักก็มีเสาใหญ่มาจากไหนไม่ทราบปักลงไปจนถึงก้นทะเลลึก ในฝันนั้นท่านบอกหลวงพ่อว่านี่เป็นศูนย์กลางของทะเล และบอกให้ปักหลักหลายๆ อันหลวงพ่อก็ไม่ขัดคำสั่ง แล้วหลักก็เกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย ท่านเรียกชื่อเดิมของหลวงพ่ออีก แล้วบอกว่าให้คอยอยู่ตรงนี้ จากนั้นท่านก็เดินบนผิวน้ำออกไปไกลจรดขอบฟ้า ไม่นานนักหลวงพ่อก็ได้ยินเสียงท่านประกาศก้องให้สัตว์ในน้ำมารวมกัน “มาที่เสาหลัก อย่าไปตรงโน้นเพราะเป็นทางของมาร” (ในฝันหลวงปู่ไม่ได้ใช้คำว่า “มาร” แต่ท่านใช้อีกคำที่เป็นภาษาของท่าน) น่าอัศจรรย์ว่าหลวงปู่อยู่ไกลสุดขอบฟ้า แต่เสียงของท่านก้องมาจนถึงจุดที่หลวงพ่อยืนอยู่ได้ ว่าแล้วท่านก็หายไป เหลือเพียงสัตว์น้ำจำนวนมหาศาลที่แห่กันมาอย่างโกลาหล ทั้งปลาเล็ก ปลาใหญ่ และสัตว์น้ำนานาชนิด เมื่อมาถึงเสาหลักแล้วจึงกลายร่างเป็นมนุษย์ มีอยู่บางตัวเท่านั้นที่มาถึงแล้วว่ายกลับไปในสภาพที่เป็นปลาเหมือนเดิม ฝันถึงตรงนี้แล้ว หลวงพ่อก็ตื่นขึ้นทันที
走到尽头之际,师父突然看见一片沙滩,以及无边无际的大海。祖师叮嘱师父继续前进,穿过炙热的沙滩,走入海中。而且奇怪的是,师父可以行走在海面上,而未被海水所淹没。
当走到大海的中央时,突然听见祖师说:“这是大海中心,停下来驻扎于此吧。”师父心里想:“去哪里找驻扎的柱子呢?”正想着的时候,只见一根大柱子已深扎海底。祖师又说:“此处是大海的中心,要多用一些柱子来驻扎建基地。”话音刚落,又有很多柱子自动伸出,矗立在大海中。
这时,祖师突然呼唤师父的俗家名字,让师父在此等候,随后祖师便走向了天际。不久又传来祖师的声音,听见他向海里生物宣告说:“都来这边的柱子来吧!别去那里,那是魔罗的地方。”(梦中祖师没用“魔罗”一词,而是用自己的语言表示)。
祖师说完就消失不见了,之后便看见海里的生物,成群结队地游向柱子,有大鱼、小鱼以及各种不同的生物。当它们来到柱子后,随即转变了成人类,但也有少部分的生物掉头,回到原先的地方。这时,师父才从梦里醒来。
เมื่อตื่นขึ้นแล้ว หลวงพ่อไม่ค่อยเข้าใจนักว่าความฝันนี้หมายถึงอะไร จึงตัดสินใจว่าต้องไปกราบขอคำปรึกษาจากท่านผู้รู้ ซึ่งมีเพียงคุณยายเท่านั้นที่หลวงพ่อคุ้นเคยมากที่สุด เมื่อไปพบคุณยายแล้ว หลวงพ่อได้เล่าความฝันให้ท่านฟัง พอเล่าจบคุณยายจึงหลับตาทำสมาธิทันทีโดยไม่ได้ว่ากล่าวหรือตำหนิว่าเป็นเรื่องไร้สาระแต่อย่างใด คราวนี้ท่านนั่งหลับตานานกว่าทุกครั้ง ถ้าเป็นฝันอื่นๆ ท่านจะหลับตาประมาณ 5 นาที แต่ครั้งนี้ท่านทำสมาธินานเป็นพิเศษประมาณ 10 นาที จากนั้นจึงพูดทั้งๆ ที่หลับตาราวกับกำลังมองเห็นอะไรอยู่ภายในว่า “ต่อไปคุณจะต้องไปปักหลักสอนธรรมะ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ คุณต้องไปปักหลักสอนธรรมะในอนาคต เส้นทางที่คุณจะเดินทางไปเพื่อทำให้เกิดขึ้นก็จะเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย แต่คุณจะเดินไปได้เพราะมีหลวงพ่อวัดปากน้ำดูแลอยู่ จนกระทั่งหมดอุปสรรคที่เป็นของแหลมคมคอยทิ่มตำ ซึ่งตำอย่างไรก็ไม่เข้า คุณจะต้องเดินทางต่อไป ที่คุณเดินไปบนผิวน้ำ เพราะน้ำคือกาม ปกติแล้วชาวโลกทั่วไปจะติดกาม มักจะครองเรือนกัน ทุกคนลงน้ำแล้วจะจม ส่วนคุณจะไม่ได้ครองเรือนเพราะเดินอยู่บนผิวน้ำโดยมีหลวงพ่อวัดปากน้ำ คอยประคับประคองไปจนกระทั่งถึงกลางทะเล คือสถานที่แห่งการเผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย หลักที่ปักลงไปคือการสร้างสถานที่ขึ้นมา ถึงจะมีอุปสรรคอย่างไรก็จะสำเร็จ หลักที่ปักลงไปกลางทะเลนั้นปักอย่างมั่นคง เป็นทะเลแห่งความรู้ ปักไปถึงก้นทะเล แปลว่าคุณจะเข้าถึงและแทงตลอดในธรรมคือวิชชาธรรมกาย แล้วหลวงพ่อวัดปากน้ำก็จะช่วยตามมนุษย์ผู้มีบุญ แต่ยังมีกิเลสอยู่ เปรียบได้กับสัตว์น้ำทั้งหลายที่ตกอยู่ในห้วงแห่งกามอย่างชาวโลก ให้มาที่เสาหลัก คือสถานที่เผยแผ่ธรรมที่คุณสร้างขึ้น ปลาที่กลายเป็นมนุษย์ หมายความว่าคนเหล่านั้นเมื่อมาถึงแล้วจะมีจิตใจสูงขึ้น พ้นจากความรู้สึกทั่วไปแบบชาวโลก จะมีอีกส่วนหนึ่งที่มาถึงแล้วก็ผ่านไป คือกลับไปอยู่ในห้วงกามเหมือนเดิม”
醒来之后,师父对梦境的寓意百思不得其解,于是决定去请教奶奶。师父将整个梦境向奶奶讲述了一遍,奶奶听完立即闭目入定,但入定的时间比往常的要长一些。
之后,她一边闭着眼睛,一边讲述所见的景象:“你将成为教导佛法之人,但不是现在,而是在未来。你走上这条路,虽然障碍重重,但在祖师的庇佑下,依然可以披荆斩棘,要坚强地走下去。水象征着情欲,一般普通人都会被情欲所困,所以他们下水后就会被淹没,而你没有结婚,故行走在水面上。
祖师庇佑你走到大海中央,那就是弘扬佛教法身法门的地点。扎起柱子意味着奠定修行场所的根基,即使遇到各种障碍,也必然会取得圆满的成功。柱子牢固的扎根在海里,象征着浩瀚如海的知识扎根海底,坚不可摧,寓意着你将精通佛法,证得法身法门。
祖师要救度的是既有烦恼又有功德的人,他们好比处在情欲深渊里的海洋生物。祖师呼召它们到柱子这边来,是想让你建立修行道场,为他们讲经说法。至于变为人类的生物,则代表的是那些既有烦恼又有功德的人,当他们来到柱子后,心灵会变得高尚,远离情欲烦恼。至于那些来后又返回的生物,意味着重新坠落情欲的深渊。” ประมาณหนึ่งปีถัดมา หลังจากที่หลวงพ่อฝันว่าได้ปักหลักลงกลางทะเลแล้ว มีอยู่วันหนึ่งหลวงพ่อได้ฝันแปลกประหลาดอีกครั้ง คืนวันนั้นหลวงพ่อหลับอยู่ในอู่แห่งทะเลบุญตามคำสอนของคุณยาย พอถึงเวลาใกล้รุ่งได้ฝันว่าเข้าไปอยู่ในบ้านใหญ่หลังหนึ่ง ภายในบ้านมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ คล้ายพระประธานในโบสถ์ ท่านเรียกชื่อเดิมของหลวงพ่อ แล้วบอกให้ไปยืนรอที่หน้าต่างเพื่อดูอะไรบางอย่าง หลวงพ่อทำตามที่ท่านบอก เมื่อไปถึงแล้วจึงแหงนมองท้องฟ้าภายนอกหน้าต่าง ปรากฏว่ามีดวงดาวทั้งขนาดเล็กและใหญ่มารวมตัวกันอยู่เต็มท้องฟ้า พระพุทธรูปได้กล่าวขึ้นว่า ให้ไปเอาขันมาหนึ่งใบ พอหลวงพ่อหันหลังกลับไปก็ปรากฏว่ามีขันขนาดใหญ่กว่าบาตรพระใบหนึ่งเกิดขึ้นในมือ หลวงพ่อจึงนำขันใบนั้นไปวางไว้บนโต๊ะด้านหน้าของพระพุทธรูป พระพุทธรูปบอกอีกว่า ให้ไปเชิญดวงดาวบนท้องฟ้าลงมาอยู่ในขัน หลวงพ่อก็รับคำแล้วปฏิบัติตาม โดยเดินกลับไปที่บานหน้าต่าง แล้วกล่าวเชื้อเชิญดวงดาวทั้งหลายบนท้องฟ้าให้ลงมาอยู่ในขัน จากนั้นเหล่าดวงดาวที่แน่นขนัดอยู่บนท้องฟ้าก็ลอยผ่านเข้ามาทางหน้าต่างแล้วพากันลงมาอยู่ในขัน เมื่อมาถึงแล้ว ต่างกลายสภาพเป็นพระบรมสารีริกธาตุต่อหน้าพระพุทธรูปองค์นั้น มีเพียงบางดวงเท่านั้นที่เข้ามาแล้วลอยกลับออกไป หลวงพ่อมองตามว่าลอยไปที่ใด ก็เห็นว่าลอยผ่านหน้าต่างออกไปจนถึงถนนแล้วตกลงไปในแอ่งน้ำข้างถนนนั้น เมื่อตกลงไปแล้วกลับกลายเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา เห็นดังนี้แล้ว จึงหันกลับมามองในขันอีกครั้ง ปรากฏว่าดวงดาวที่เปลี่ยนเป็นพระบรมสารีริกธาตุได้กลายสภาพเป็นพระของขวัญทั้งหมด หลวงพ่อรู้สึกอัศจรรย์ใจแล้วพลันตื่นขึ้น ในวันนั้นจึงรีบไปหาคุณยายเหมือนอย่างเคย
大约在一年之后,师父又再做了一个奇怪的梦。有一天黎明时分,师父梦到自己进入了一间大房子,里面安放着一尊巨大的佛像,看似与大雄宝殿里的主佛相像。佛像突然开口呼唤师父的俗家名字,然后让师父站到窗口前。师父依照吩咐走到窗前,自然地抬头望向天空,只见星罗密布的夜空中繁星点点。这时,佛像让师父去取一个盛水的器皿,而师父刚一转身,就有一个比僧钵还大的盛水器皿显现于双手间。师父刚把器皿放到佛像前的桌子上,又听见佛像说:“将满天繁星请到器皿里来吧。”师父依照指示走到窗前邀请繁星入器皿,不久便看见星星相继落入器皿中,并在佛像前瞬间转化成佛舍利。
可是有一些落入器皿的星星,过后又飞了出去,师父好奇想看看它们飞往哪里,故而随之望去,只见它们飞出窗口,落入对面马路旁的水坑中,并随即变化为小虾、贝类、螃蟹和鱼儿等。见到此景象之后,师父又望向器皿中已变成佛舍利的星星,结果佛舍利又变成了佛牌。随后,师父便醒起来了。
เมื่อพบคุณยายแล้วหลวงพ่อได้กราบเรียนท่านถึงความฝัน ท่านรับฟังหลวงพ่อด้วยความสงบนิ่งเป็นปกติ แล้วนั่งหลับตานานเกือบ 10 นาที สักพักท่านก็พูดขึ้นทั้งๆ ที่หลับตาอยู่ว่า “ดาวบนท้องฟ้าหมายถึง ผู้มีบุญ มีบารมี มีลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นคนที่มีบุญ มีวาสนา จากนานาชาติ จะเดินทางมายังบ้านหลังใหญ่ ซึ่งหมายถึงสถานที่ปฏิบัติธรรมขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต ส่วนพระพุทธรูปที่พูดได้ ก็คือพระธรรมกายภายในตัว ผู้มีบุญที่เปรียบได้กับดวงดาว เมื่อลอยมาอยู่ในขันแล้วแปรสภาพเป็นพระบรมสารีริกธาตุ หมายถึงเขาเหล่านั้นจะได้บรรลุธรรมด้วยการทำตามคำสอนของพระสัมมา-สัมพุทธเจ้า แต่ดาวบางดวงที่ลอยกลับออกไป ก็คือคนที่มาถึงสถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งนี้แล้วจากไปเพื่อคลุกคลีอยู่กับชีวิตทางโลก โดยตกลงไปในแอ่งน้ำซึ่งหมายถึงกาม คือการแสวงหาในเรื่องของทรัพย์และเสพสุขตามอย่างชาวโลกทั่วไป ทำให้จิตใจตกต่ำลงกว่าเดิม เปรียบได้กับสัตว์เล็กอย่างกุ้ง หอย ปู ปลา ส่วนการที่พระบรมสารีริกธาตุในขันเปลี่ยนเป็นพระของขวัญนั้นหมายความว่า ในเบื้องต้น ผู้มีบุญที่มาถึงจะเข้าใจคำสอนเพื่อการบรรลุมรรคผลก่อน ต่อมาเมื่ออยู่นานวันเข้าก็จะเข้าใจเรื่องการปราบมารด้วยวิชชาธรรมกายเพื่อมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรม เรื่องทั้งหมดจะยังไม่เกิดขึ้นในเวลานี้ แต่จะเกิดขึ้นในอนาคต”
后来,师父将梦境一五一十的告知奶奶,她耐心地倾听后,一如既往地入定了十分钟,然后说:“满天的繁星象征具足功德与德行之人。那座大房子代表未来即将要建立的修行道场,而佛像则代表内在的法身佛。有德之士犹如繁星,飘然落入器皿后转为佛舍利,意味他们将遵循佛陀的教诲而证入佛法。那些飞出去的星星,是指来修行而证悟佛法后,又返回世俗生活的人。至于掉落水坑意味着落入情欲的深渊,也指那些迷失于赚钱享乐的人。他们散漫颓败,生命犹如小虾、贝类、螃蟹和鱼儿一般。最后器皿中的佛舍利转化成佛牌,其寓意是具足功德的人在初始时,为了证得道果而学习佛法,后来则为了证入法的究竟,而修习降魔的法身法门。这些都是预言,将不会在短期内发生,但是会在未来实现。”
มาถึงทุกวันนี้แล้ว หลวงพ่อรู้สึกอัศจรรย์ใจในคำทำนายฝันของคุณยาย เพราะท่านเป็นผู้ไม่รู้หนังสือ อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ หมดสิทธิ์ที่จะอ่านหนังสือทำนายความฝันเหมือนคนอื่นๆ คำทำนายของท่านแม่นยำมาก เพราะก่อนบวชนั้น หลวงพ่อเรียนธรรมะอย่างมีความสุข แต่เมื่อบวชแล้วก็ต้องเผชิญกับมาร คืออุปสรรคมากมายหลากหลายรูปแบบ ได้แต่คิดว่า ขนาดพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ายังต้องผจญมาร เราเป็นศิษย์ของพระองค์ก็ต้องโดนเบียดเบียนบ้างเป็นธรรมดา เมื่อสร้างวัดพระธรรมกายได้แล้ว ก็มีศิษยานุศิษย์จำนวนมาก จากทุกสารทิศ ทั้งภายในและต่างประเทศ มาร่วมประพฤติปฏิบัติธรรมกัน ทุกคนล้วนมีโอกาสในการสั่งสมบุญบารมียิ่งๆ ขึ้นไป จะมีอยู่บ้างที่ศึกษาในระดับหนึ่งแล้วเกิดเปลี่ยนใจ ได้ละทิ้งหนทางการสร้างบารมี กลับไปใช้ชีวิตทางโลกเหมือนคนทั่วไปอย่างเดิม อย่างไรก็ตามการทำนายฝันของคุณยายในครั้งนั้น ทำให้หลวงพ่อได้เตรียมตัวเตรียมใจแล้วว่าจะต้องมาสร้างวัดใหม่เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาและวิชชาธรรมกายต่อไป โดยต้องเหน็ดเหนื่อยฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ
对于奶奶的解梦,时至今日师父依然感到无比的神奇。奶奶虽不识字,但却拥有博闻强识者的解梦能力。而奶奶的解梦,也让师父下定决心要建立一所新的寺院,继续弘扬法身法门,为佛教做出一份贡献。期望大家众志成城,一起跨越所有障碍,趣向法的究竟。